15 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศ (STD)

เนื้อหาในบทความนี้

เราจะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ซ้ำสองได้ไหม? เราจะได้เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากอ่างอาบน้ำหรือไม่? หรือเราจะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการใช้ห้องน้ำเดียวกันได้ไหม? และนี่เป็นสิ่งที่หลายๆคนถาม และยังมีความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้

แม้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ให้คนหาในอินเตอร์เน็ตค่อนข้างเยอะ แต่นั้นไม่ได้การันตีว่าจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเสมอไป อย่างข้อมูลที่เกี่ยวกับสาเหตุการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) และ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) นั้นยังเป็นเรื่องที่เข้าใจกันแบบผิดๆ

บทความนี้ได้รับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ และตรวจทานโดยแพทย์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าเราได้ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIH) และเอกสารการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการตรวจสอบ (โดยได้เผยแพร่ในวารสาร เช่น วารสารทางการแพทย์ New England และวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน (JAMA) ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์พูดถึงและนำมารวบรวมเป็นบทความนี้

เหล่านี้ คือความเชื่อที่ผิดๆ

ความเชื่อผิดๆ 1 : คุณจะไม่ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) หากคุณไม่ได้เพศสัมพันธ์

หลายคนยังเชื่อว่า หากคุณไม่มีเพศสัมพันธ์ด้วยการสอดใส่ คุณก็จะไม่ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) แต่ความเป็นจริงแล้ว “คุณติดโรคได้โดยไม่จำเป็นต้องมีกิจกรรมทางเพศ

การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STI) นั้นส่วนมากมักติดได้จากการร่วมเพศแบบสอดใส่ แต่การติดเชื้อ STI นั้นยังสามารถติดได้จากวิธีการอื่นด้วย เช่นการจูบ หรือการร่วมเพศทางปาก อย่างเช่นโรคหนองใน (Gonorrhea) ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียนั้น สามารถติดเชื้อได้ที่บริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือลำคอ โดยสามารถติดเชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทางทวารหนักได้ สำหรับซิฟิลิส (Syphilis) และ HPV สามารถติดเชื้อได้เพียงแค่ผิวหนังสัมผัสกัน และสำหรับเชื้อ HIV นั้น การมีเพศสัมพันธ์จะเป็นความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด แต่ยังสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสกับเลือดโดยตรงจากผู้ติดเชื้อ (โดยเฉพาะการใช้เข็มหรืออุปกรณ์ฉีดยาอื่นๆร่วมกับผู้ติดเชื้อ)

ความเชื่อผิดๆ 2 : คุณจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ถ้าใช้ชักโครกเดียวกัน

“เราจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถ้าใช้ห้องน้ำสาธารณะ” เรามักจะได้ยินคำพูดนี้บ่อยๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นความเสี่ยงจากการติดเชื้อคือ 0 เนื่องจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นจะตายเมื่อเซลล์เชื้อโรคอยู่ภายนอกร่างกาย นอกจากนี้เชื้อ STI และ HIV นั้นจะติดก็ต่อเมื่อเชื้อโรคที่อยู่ในสภาพของเหลวที่แพร่เชื้อไปยังบาดแผลเปิดที่อักเสบเท่านั้น เพราะฉะนั้น “การใช้ชักโครกสาธารณะจึงไม่ทำให้คุณติดเชื้อ

ความเชื่อผิดๆ 3 : คุณจะรู้ว่าเป็น STD ก็ต่อเมื่อคุณมีอาการ

หลังจากการแพร่ระบาดของ COVID -19 ทำให้เรารู้ว่าร่างกายนั้นสามารถรับเชื้อโรคและเชื้อโรคนั้นยังอยู่ในร่างกายได้โดยไม่มีอาการเจ็บป่วยทางร่างกายที่แสดงออกมา ซึ่งการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์นั้นก็เช่นกัน “เราสามาถติดเชื้อได้แต่ไม่มีอาการปรากฎออกมา” นั้นจึงเป็นสาเหตุให้ผู้เชียวชาญทางการแพทย์มักใช้คำว่า STI (การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์) มากกว่า STD (โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์)

และนี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญว่าทำไมการเราจึงควรตรวจหา STI เสมอ ก่อนที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคู่นอนคนใหม่ หรือมีคนรักใหม่

ความเชื่อผิดๆ 4 : เราควรจะตรวจหา STD ก็ต่อเมื่อเรามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ

จริงอยู่ที่การมีเพศสัมพันธ์ทำให้เสี่ยงต่อการติดโรค ซึ่งหากยิ่งเรามีเพศสัมพันธ์บ่อย ก็ยิ่งมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น แต่จริงๆแล้วการมีกิจกรรมทางเพศทุกรูปแบบต่างหากที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะเมื่อคู่หรือคนรักของคุณไม่เคยตรวจหาเชื้อมาก่อน หรือไม่ได้ป้องกันระหว่างการมีกิจกรรมทางเพศ

และในความเป็นจริงแล้ว การติดเชื้อ STI ทุกเพศทุกวัยสามารถติดเชื้อนี้ได้ไม่ใช่เฉพาะแค่คนที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ “แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้” เพราะฉะนั้นการตรวจหาเชื้อและการใช้อุปกรณ์ป้องกันขณะร่วมเพศจะสามารถป้องกันตัวเราจากการติดเชื้อได้มากขึ้น

ความเชื่อผิดๆ 5 : คุณจะเป็นเริม (herpes) จากคนที่มีแผลเริมเท่านั้น

นี่ก็เหมือนกับการรับเชื้อ STI โดยที่ไม่แสดงอาการ คุณสามารถรับเชื้อโรคจากคนที่มีเชื้อเริม (herpes) ตอนไหนก็ได้ ไม่สำคัญว่าคนคนนั้นมีเชื้อเริม (herpes) ที่เป็นแผลหรือไม่

ในความเป็นจริงแล้วนั้น คุณจะมีความเสี่ยงอยู่แล้วเมื่อคุณสัมผัสกับแผลเริม (herpes) โดยตรง และ“เมื่อคุณสัมผัสแผลนั้นตัวคุณเองก็สามารถส่งต่อเชื้อเริม (herpes)ไปยังผู้อื่นได้ทันทีโดยที่ตัวของคุณนั้นไม่จำเป็นต้องมีแผล

อ่านต่อ : แผลที่อวัยวะเพศ แบบไหนร้ายแรงต้องรีบรักษา

ความเชื่อผิดๆ 6 : คุณจะไม่เป็น STD จากสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำร้อน

เราอาจเคยได้ยินมาว่า ‘ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในสระว่ายน้ำหรืออ่างน้ำร้อนจะไม่ทำให้ติดเชื้อ STD เพราะว่าคลอรีนและน้ำร้อนนั้นจะทำให้เชื้อโรคตาย’ แต่นั้นไม่เป็นความจริง ความจริงแล้ว “คุณยังมีความเสี่ยงที่จะเป็น STI อยู่ หลังจากมีกิจกรรมทางเพศในสระว่ายน้ำหรืออ่างน้ำร้อน” โดยเฉพาะหากคุณมีเพศสัมพันธ์ในสระว่ายน้ำ คลอรีนจะทำให้ช่องคลอดคุณแห้ง และเพิ่มการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

แต่หากคุณไม่ได้มีกิจกรรมทางเพศในสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำร้อนคุณก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะติดโรคเหมือนกับกรณีการใช้ห้องน้ำสาธารณะ

และข้อควรระวังคือหากคุณเลือกที่จะมีเพศสัมพันธ์ในสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำร้อนแล้วนั้นไม่ใช่แค่ความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ STD เท่านั้นคุณยัง“เสี่ยงที่จะติดเชื้อทางเดินปัสสวาวะอีกด้วยหากน้ำในสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำร้อนนั้นไม่ถูกสุขอนามัย

ความเชื่อผิดๆ 7 : คุณจะไม่ติดเชื้อ STD หากคุณใช้ถุงยางอนามัย

ความเข้าใจผิดๆ : ความจริงแล้ว “คุณยังเสี่ยงที่จะติดเชื้อ STD อยู่แม้ว่าคุณจะใช้ถุงยางอนามัย” นั้นเพราะว่าอาจจะยังมีบางส่วนที่ถุงยางอนามัยไม่สามารถปกปิดได้ทั้งหมด และ STI ยังสามารถแพร่เชื่อได้หากสัมผัสกับบริเวณนั้นๆที่ไม่ได้ถูกปกปิด และทุกครั้งที่คุณใช้ถุงยางอนามัยขอให้คุณตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการผลิต ด้านที่สวมใส่ รวมถึงวันหมดอายุด้วย เพื่อให้ได้การป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ความเชื่อผิดๆ 8 : คุณจะไม่เป็น STD จากจากจูบ

ความเป็นจริงแล้วนั้น“คุณสามารถติดและได้รับเชื้อผ่านปากได้” และสามารถได้รับเชื้อผ่านการจูบหรือการสัมผัสน้ำลายและปากของผู้ติดเชื้อได้เช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เชื้อเริม (herpes) และ ซิฟิลิส (Syphilis)

ความเชื่อผิดๆ 9 : การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) รักษาไม่หาย

จริงอยู่ที่ว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) หลายโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อย่าง HIV, HPV, เริม (herpes) และไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) แต่ปัจจุบันนั้นมียาหลายตัวเช่น ยาต้านไวรัสสำหรับ HIV ที่สามารถช่วยให้ไม่มีการแสดงอาการของโรคได้ แต่แม้ว่าจะมียาต้านไวรัสออกมาแต่เชื้อเหล่านั้นก็ยังจะอยู่ในร่างกายเราตลอดชีวิต

นอกจากนี้โรคอื่นๆที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) นั้นอย่าง โรคหนองใน (gonorrhea) ซิฟิลิส (syphilis) หนองในเทียม (chlamydia) และโรคพยาธิในช่องคลอด (trichomoniasis) นั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้แล้ว

ความเชื่อผิดๆ 10 : คุณไม่สามารถเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

“คุณสามารถเป็น STD ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเชื้อที่เป็นแบคทีเรีย” แม้ว่าการติดเชื้อจะหายไปเองหรือจากการใช้ยาปฏิชีวนะก็ตาม คุณก็ยังสามารถติดเชื้อได้อีกหากคุณสัมผัสกับเชื้อ และสำหรับการติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส เชื้อนั้นสามารถอยู่ในร่างกายของคุณ และบางครั้งอาจทำให้อาการกำเริบได้แม้ว่าจะติดเคยเชื้อแล้วก็ตาม

ความเชื่อผิดๆ 11 : การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) นั้นเป็นเรื่องที่เลวร้าย

คุณเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ไหม ‘เป็นSTD แล้วดูสกปรก’ ‘เป็น STD แล้วต้องตายแน่ๆ’ แต่เราจะบอกคุณว่ามันไม่ใช่แบบนั้นการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) นั้นเป็นเรื่องปกติมาก คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่ คุณแค่ยอมรับมันและดูแลสุขภาพ สุขอนามัยของคุณและคู่รักของคุณเท่านั้นเอง

ความเชื่อผิดๆ 12 : คุณสามารถดูจากภายนอกได้ว่ามีใครติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

คุณอาจคิดว่ามันจะชัดเจน ถ้าคุณหรือคู่นอนมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อเรานึกถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พวกเราหลายคนมักนึกถึงอาการที่เด่นชัด เช่น ก้อนเนื้อ แผล ผื่น หรือสิ่งคัดหลั่งที่ไม่พึงประสงค์ แต่บ่อยครั้งที่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่มีอาการหรืออาการแสดงใดๆ เลย (หรืออาจไม่ปรากฏเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน) ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจไม่ทราบว่าตนมีหากยังไม่ได้ตรวจ

อ่านต่อ : Chlamydia trachomatis โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการน้อย แต่ปัญหาเยอะ

แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการหรืออาการแสดงใดๆ คุณควรเข้ารับการตรวจหากคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน (ไม่สวมถุงยางอนามัย) และแน่นอน วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองคือการใช้ถุงยางอนามัยเสมอทุกครั้ง

ความเชื่อผิดๆ 13 : คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะปัจจุบันการรักษามีประสิทธิภาพมาก

แม้ว่าการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะมีประสิทธิภาพมาก แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตั้งแต่แรกเสมอ เพราะไวรัสบางชนิด เช่น เริมที่อวัยวะเพศ และเอชไอวี แม้จะสามารถให้ยารักษาได้ แต่เชื้อก็ยังคงอยู่ในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น โรคหนองใน อาจเกิดการดื้อต่อยาปฏิชีวนะ และเป็นเชื้อรุนแรงได้ นอกจากนี้ หากคุณติดโรคโดยที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้รักษา ก็อาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพอื่นๆตามมาได้ด้วยเช่นกัน

อ่านต่อ : ผลแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น หากไม่ได้รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ความเชื่อผิดๆ 14 : โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะหายไปเอง

เป็นไปได้ยากมาก ที่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จะหายไปเอง และหากคุณรอโดยไม่รับเข้ารับการรักษา ทำให้การรักษาล่าช้า คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดปัญหาระยะยาว นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังคู่นอน แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการแสดงใดๆ ในขณะนั้นก็ตาม

ความเชื่อผิดๆ 15 : การทดสอบ STI นั้นเจ็บปวดมาก

ไม่ต้องกลัว เพราะการตรวจ STI สำหรับทั้งชายและหญิง สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วพอๆ กับการเก็บตัวอย่างปัสสาวะ หรืออาจต้องเจาะเลือดตรวจ หรือใช้ไม้พันสำลีป้ายบริเวณอวัยวะเพศ แต่รับรองว่าด้วยเทคโนโลยีการตรวจ ณ ปัจจุบัน แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดขณะที่ทำการตรวจ แต่ก็จะไม่ทำให้เจ็บปวด และ ณ ปัจจุบัน มีชุดตรวจที่คุณสามารถตรวจเองได้ที่บ้าน และส่งเข้าศูนย์แลปเพื่อรับการตรวจ อย่างเช่นที่ เฮลท์สไมล์ ให้บริการอยู่

References

Halil, N. H. (2015, March 18). 11 myths about sexually transmitted infections. Independent. https://www.independent.co.uk/life-style/love-sex/11-myths-about-sexually-transmitted-infections-10116030.html

The 11 biggest STD myths, debunked. (n.d.). Adyn.com. Retrieved May 1, 2024, from https://adyn.com/blog/the-11-biggest-std-myths-debunked/

สงสัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

✅✅✅✅✅

รูปชุดตรวจ STD

 

หากมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบขัด ตกขาว มีแผล หรือมีความเสี่ยงที่มีคู่นอนหลายคน หรือ คู่นอนของเรามีคนอื่นด้วย

หากต้องการตรวจเพื่อยืนยันการติดเชื้อ หรือรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ด้วยเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง สามารถรักษาให้หายขาดได้ เฮลท์สไมล์ มีให้บริการชุดตรวจด้วยตนเองที่บ้าน ครอบคลุมเชื้อที่ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศสูงสุดถึง 14 โรค มีความแม่นยำมากกว่า 95%

เรามีแพคเกจตรวจโรคและความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ให้เลือกอยู่ 4 แพคเกจ

* ทุกแพคเกจ มีแพทย์เฉพาะทางที่ปรึกษาด้านสูตินรีเวช เพื่อแนะนำการรักษา
* ทุกแพคเกจ รวมค่ายารักษาตามโรคที่พบส่งฟรีถึงบ้านโดยเภสัชกร

    1. แพคเกจปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อการรักษา : 900 บาท
      เหมาะกับคนที่ยังไม่เคยรักษา ต้องการรักษาด้วยตนเอง แพทย์แนะนำยา แนะนำการรักษา การดูแลตนเองหลังรักษาป้องกันการเป็นซ้ำ
    2. แพคเกจตกขาวผิดปกติ 7 โรค : 2,490 บาท
      สำหรับคนที่มีอาการปัสสาวะผิดปกติ หรือตกขาวผิดปกติ
      ตรวจได้ 7 เชื้อ ได้แก่
      – หนองในแท้
      – หนองในเทียม (5 ชนิด)
      – พยาธิในช่องคลอด
    3. แพคเกจแผลที่อวัยวะเพศ 11 โรค : 2,990 บาท
      สำหรับคนที่มีแผล หรือก้อนที่อวัยวะเพศ
      ตรวจได้ 11 เชื้อ ได้แก่
      แพคเกจที่ 2. + เพิ่ม
      – เริม (2 ชนิด)
      – ซิฟิลิส
      – แบคทีเรียในช่องคลอด
    4. แพคเกจตรวจครบ 14 โรค : 3,290 บาท *** แนะนำ ***
      สำหรับมารดาที่มีตกขาวผิดปกติ แนะนำให้ตรวจโรคแบบครบรอบด้าน
      ตรวจได้ 14 เชื้อ ได้แก่
      แพคเกจที่ 3. +เพิ่ม
      – แผลริมอ่อน
      – เชื้อรา
      – เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (2 ชนิด) รวมไปถึงเชื้อ GBS (Group B Streptococcus) ซึ่งส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้รุนแรง

📞 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายการตรวจได้ที่
– Line ID : @Sex.Disease
หรือคลิกได้ที่ลิงค์นี้
https://link.healthsmile.co.th/add-line/STD-content

🌐 อ่านข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจโรคทางเพศ และการรักษา ได้ที่นี่
https://healthsmile.co.th/mens-sti-clinic/
https://healthsmile.co.th/womens-sti-clinic/

✅✅✅✅✅

package STD price