ลูกหน้าตาไม่เหมือนพ่อ…แล้วไง? ถ้าโดนทักแบบนี้ ต้องทำยังไงดี?
ในโลกโซเชียลทุกวันนี้ แค่โพสต์รูปลูกลงเฟซบุ๊กก็มีคนพร้อมคอมเมนต์ทันทีว่า “เอ๊ะ…หน้าลูกไม่เหมือนพ่อเลยนะ?” ฟังแล้วก็จี๊ดดด ขำก็ไม่ขำ จะโกรธก็ใช่ที่ ยิ่งถ้าเป็นคำพูดจากคนใกล้ตัวหรือครอบครัว มันอาจกลายเป็นประเด็นใหญ่แบบไม่รู้ตัวเลยก็ได้ค่ะ
แต่เดี๋ยวก่อน! ก่อนจะเครียดหรือทะเลาะกัน ลองอ่านบทความนี้ก่อนดีกว่า เพราะเรื่อง “ลูกหน้าไม่เหมือนพ่อ” มันไม่ได้แปลว่า “ไม่ใช่ลูก” เสมอไปนะคะ ในบทความนี้เรามาคุยกันแบบอ้างอิงข้อมูลวิทยาศาสตร์จริงจังแต่เล่าแบบเข้าใจง่ายกันดีกว่าค่ะ
ทำไมลูกถึงไม่เหมือนพ่อ?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า พันธุกรรมมันซับซ้อนกว่าที่คิด เราแต่ละคนได้ยีนมาจากพ่อกับแม่คนละครึ่ง การแสดงออกทางพันธุกรรม รวมไปถึงหน้าตาของลูก ก็เกิดจากยีนที่ได้รับจากพ่อและแม่นี่แหละ แต่ยีนที่ได้รับมาบางตัวก็แอบ “ซ่อน” ไว้เฉย ๆ ไม่แสดงออกมาให้เห็น เช่น สีผิว รูปหน้า หรือแม้แต่ตาชั้นเดียว/สองชั้น นอกจากนี้ยืนที่กำหนดหน้าตาของมนุษย์นั้น มีหลายยีนมาก ในหลายๆงานวิจัยกล่าวว่ามีถึง 20 ยีนเลยทีเดียว ดังนั้น แม้ยีนจะต่างกันนิดๆหน่อย ก็อาจทำให้หน้าตาต่างกันได้ค่ะ
ยกตัวอย่างกรณีที่ยีนบางตัวที่ถูกซ่อนไว้นะคะ พ่อแม่ผิวขาวทั้งคู่ แต่ถ้าปู่ย่าหรือตายายเคยมีผิวเข้มมาก่อน ลูกก็อาจเกิดมาผิวคล้ำได้ เพราะยีนเหล่านี้อาจข้ามรุ่นมาโผล่ในรุ่นหลานได้แบบไม่คาดคิดเลยล่ะ (Jablonski, 2004)
พูดง่าย ๆ ก็คือ “หน้าตาไม่เหมือน” ไม่ได้แปลว่า “ไม่ใช่”
อ่านเพิ่ม : ลูกหน้าตาไม่เหมือนพ่อ เพราะอะไร? หรือจริงๆแล้วจะไม่ใช่ลูกของเรา?
ถ้าเริ่มไม่แน่ใจ จะทำยังไงดี?
ถ้าในใจเริ่มมีความสงสัยจริงจัง หรือมีคนในครอบครัวกดดันหนักมากจนทำให้เกิดความกังวล ไม่ต้องกลัวนะคะ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยพิสูจน์ความเป็นพ่อได้ด้วยความแม่นยำสูงแบบ 99.999% เลยทีเดียว นั่นก็คือ การตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นบิดาค่ะ (ซึ่งจริงๆแล้ว จะพิสูจน์ความเป็นมารดา พี่น้อง ปู่ย่าตายาย ก็ได้ค่ะ)
การตรวจ DNA พิสูจน์พ่อ-ลูก เป็นการเอาตัวอย่างเซลล์ เช่น เก็บ DNA จากเซลล์เยื่อบุกระพุ้งแก้ม หรือเลือด หรือสิ่งส่งตรวจอื่นๆ มาเปรียบเทียบกันระหว่าง 2 ท่านที่ต้องการรู้ความสัมพันธ์ ซึ่งแม่นยำสุด ๆ และใช้เวลาประมาณ 10-14 วันก็รู้ผลแล้วค่ะ
อ่านเพิ่ม : ตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ (พ่อ-แม่-ลูก, พี่-น้อง) ได้จากสิ่งใดบ้าง?
บางคนอาจไม่รู้ว่า ปัจจุบันยังสามารถตรวจ DNA ได้ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้องด้วยนะ เรียกว่า Non-Invasive Prenatal Paternity Test แค่เจาะเลือดแม่ และเก็บเอาตัวอย่าง DNA จากพ่อก็พอ ไม่ต้องยุ่งกับตัวเด็กเลย ปลอดภัยทั้งแม่และลูก (Lo et al., 1997)
HealthSmile ของเรามีให้บริการตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดา
– ตรวจหลังทารกคลอด ราคา 12,000 บาท
– ตรวจขณะตั้งครรภ์ ราคา 34,800 บาท
พร้อมบริการถึงบ้านทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลได้ที่ LINE ID : @HealthSmile หรือคลิกที่ลิงค์นี้ : https://lin.ee/4CIgU8r
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับแพคเกจได้ที่นี่ https://healthsmile.co.th/dna-paternity-test/
แล้วถ้าต้องถึงขั้นขึ้นศาลล่ะ?
บางเคสที่เรื่องบานปลายมาก ๆ จนต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะกฎหมายไทยก็สามารถออกคำสั่งให้ตรวจ DNA ได้เหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะกรณีที่มีผลต่อเรื่องนามสกุล มรดก หรือสิทธิ์ทางกฎหมายของเด็ก ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (มาตรา 1546–1560) ถ้าใครสงสัยในความเป็นพ่อ สามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งตรวจ DNA ได้เลย และผลตรวจนี้ก็ถือเป็นหลักฐานทางกฎหมายที่ศาลยอมรับนะครับ (สำนักงานกฤษฎีกา, 2562)
แล้วเรื่องความรู้สึกล่ะ…ทำไงดี?
เอาจริง ๆ เรื่องแบบนี้มันกระทบใจคนทั้งบ้านเลยนะ โดยเฉพาะคนเป็นพ่อที่รู้สึกถูกตั้งคำถาม หรือแม่ที่อาจรู้สึกไม่เป็นธรรม เด็กเองก็อาจรับรู้ถึงบรรยากาศตึงเครียดได้เหมือนกัน จากงานวิจัยจาก American Psychological Association (2017) ยังบอกอีกว่า เด็กที่โตมาในครอบครัวที่มีข้อพิพาทเรื่องสายเลือด มีแนวโน้มจะเครียดและไม่มั่นคงทางอารมณ์มากกว่าปกติ
ดังนั้น ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ “พูดคุยกันตรง ๆ” ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ และใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาตัดสิน มากกว่าการฟังจากคำพูดของคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในชีวิตเราจริง ๆ
สรุปแบบเพื่อนเตือนเพื่อน
ถ้าโดนทักว่า “ลูกหน้าไม่เหมือนพ่อ” ก็อย่าเพิ่งวู่วาม ฟังหูไว้หู แล้วถามตัวเองก่อนว่า “เราเชื่อมั่นในความสัมพันธ์แค่ไหน?” ถ้าคำพูดนั้นทำให้ไม่สบายใจมาก ๆ ก็ตรวจ DNA ไปเลยให้จบ ๆ เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ช่วยให้เราคลี่คลายทุกอย่างได้แบบชัดเจน ไม่มีต้องเดาอีกต่อไปค่ะ
แหล่งอ้างอิง
-
Jablonski, N. G. (2004). The evolution of human skin and skin color. Annual Review of Anthropology, 33, 585–623.
-
Lo, Y. M. D., et al. (1997). Presence of fetal DNA in maternal plasma and serum. The Lancet, 350(9076), 485–487.
-
American Psychological Association. (2017). Effects of family conflict on children’s mental health.
-
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2562). คำอธิบายกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัว.