Last Updated on 16 พฤษภาคม 2024 by นพ.ประสิทธิ์ วิริยะกิจไพบูลย์

แผลที่อวัยวะเพศ แบบไหนร้ายแรงต้องรีบรักษา

เนื้อหาในบทความ

Last Updated on 16 พฤษภาคม 2024 by นพ.ประสิทธิ์ วิริยะกิจไพบูลย์

แผลที่อวัยวะเพศ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การเสียดสี/กระแทก การติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรืออาจเป็นจากโรคที่เกิดในส่วนอื่นๆของร่างกายแต่ว่าทำให้เกิดแผลก็ได้ เช่น มะเร็งต่างๆ โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน ฯลฯ แม้ว่าบางครั้งแผลอาจดูไม่รุนแรงในระยะแรก แต่ก็มีบางกรณีที่ต้องรีบรักษาเพื่อป้องกันภาวะที่ร้ายแรงขึ้นในอนาคต ดังนั้น ในบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับแผลที่อวัยวะเพศและความสำคัญของการรักษาให้ทันเวลาก่อนที่อาการจะรุนแรง

สำหรับคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายที่มีแผล หรือตุ่ม ที่มีอาการเจ็บ/แสบเวลาโดนน้ำ บริเวณอวัยวะเพศ ช่องคลอด องคชาติ หรือบริเวณทวารหนัก สาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs : Sexually Transmitted Diseases) แต่อย่างไรก็ดี มีโรคอีกหลายอย่างที่ทำให้เกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศได้

ทุกๆแผลที่เกิดที่อวัยวะเพศ ถือเป็นความผิดปกติ ต้องเข้ารับการตรวจรักษาเสมอ

สาเหตุของการเป็นแผลที่อวัยวะเพศ

การบาดเจ็บของอวัยวะเพศจากการเสียดสี กระแทก หรือสารเคมี

อวัยวะเพศชายและหญิงเป็นโครงสร้างที่อ่อนไหวและมีความไวต่อการบาดเจ็บ อาจเกิดจากการเสียดสีและทำให้เกิดแผล เช่น เวลามีเพศสัมพันธ์ในขณะที่อวัยวะเพศขาดการหล่อลื่น หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ (Sex toy) โดยไม่ระมัดระวัง การบาดเจ็บเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่ออวัยวะเพศและสามารถทำให้เกิดแผลร้ายแรงได้ หากมีเลือดออกปริมาณมาก และมีการฉีกขาดรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาทันเวลา

นอกจากนี้ อวัยวะเพศอาจเป็นแผลจากการถูกสารเคมีต่างๆกัดจนทำให้เกิดแผลได้เช่นกัน เช่น โลชั่น ครีมกำจัดขน หรือสารเคมีจากอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศ

    • แผลริมอ่อน (Chancroid) เกิดจากเชื้อ Haemophilus ducreyi

    • หนองในเทียม (Chlamydia) เกิดจากเชื้อ Chlamydia trachomatis

    • เริมที่อวัยวะเพศ (Genital herpes) เกิดจากเชื้อ Herpes simplex virus

    • ซิฟิลิส (Syphilis) เกิดจากเชื้อ Treponama pallidum

    • การติดเชื้อ HIV

การมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัยหรือการมีคู่นอนหลายคนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อที่กล่าวด้านบนสามารถถ่ายทอดผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และทำให้เกิดแผลบนอวัยวะเพศได้ บางกรณีจะมีอาการอักเสบรุนแรง สามารถก่อให้เกิดแผลเป็นน่าเกลียดที่อวัยวะเพศและร่างกายรอบๆได้

แผลที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นี้สามารถแพร่ไปให้ผู้อื่นได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ การสัมผัส หรือการใช้ปากก็สามารถติดได้ ดังนั้นจึงควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์หากมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ และเข้ารับการตรวจรักษาให้แน่ชัดก่อนเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคติดต่อไปสู่ผู้อื่น

การติดเชื้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ก็ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศได้

การติดเชื้อไวรัส

    • CMV : Cytomegalovirus ทำให้เกิดตับอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และอาการรุนแรงอื่นๆ

    • EBC : Epstein-Barr virus ทำให้เกิดโรค mononucleosis.

    • Paratyphoid virus ทำให้เกิดไข้ไทฟอยด์ typhoid fever.

การติดเชื้อแบคทีเรีย

โรคทางกายอื่นๆที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และเป็นแผลที่อวัยวะเพศได้

การรักษาแผลที่อวัยวะเพศ

การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของแผล แต่ทั้งนี้ การรักษาแผลที่อวัยวะเพศต้องดำเนินการโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ควรไปซื้อยาจากร้านขายยามารับประทานด้วยตนเอง เนื่องจากอาจจะไม่ตรงโรค และทำให้การรักษาล่าช้าเกิดผลเสียได้

การรักษา อาจเป็นการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุ ซึ่งมีหลายชนิด ดังนั้น จึงต้องให้การรักษาให้ตรงโรคและหายขาด นอกจากนี้ยังมีการใช้ยาและการรักษาอื่นๆเพื่อลดอาการอักเสบ ลดอาการปวด บวม แดง หรือมีน้ำเหลืองไหลออกมา และหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลาและอยู่ในสภาวะอักเสบรุนแรง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงเช่น การติดเชื้อแทรกซ้อนที่มีอาการรุนแรงได้

อ่านต่อ : ผลแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น หากไม่ได้รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การป้องกันการเกิดแผลที่อวัยวะเพศ

นอกจากการรักษาแผลที่อวัยวะเพศทันทีเมื่อเกิดบาดเจ็บแล้ว การป้องกันก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยคุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง

    1. การป้องกันอุบัติเหตุ การเสียดสี และสารเคมี : ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น และไม่มีการระบายอากาศที่ดี ใช้สารหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์กรณีที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติที่เพียงพอ ระมัดระวังและใช้เครื่องป้องกันอุบัติเหตุ เช่น สวมใส่ชุด/ผ้าคลุมที่มีความปลอดภัยเมื่อมีกิจกรรมที่อาจเสี่ยงขณะทำงาน

    1. การใช้มาตรการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ : ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งในการมีเพศสัมพันธ์ หรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย เช่น มีคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทวารหนักโดยไม่ได้มีเครื่องป้องกัน

    1. การรักษาอาการ และรักษาโรคอย่างถูกต้อง ตามสาเหตุที่พบ : หากเกิดบาดแผลบนอวัยวะเพศ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างถูกต้อง หากมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อให้เกิดขึ้น หากตรวจพบโรคอื่นก็ควรรักษาตามสาเหตุของโรคที่ตรวจพบ

    1. รักษาสุขอนามัยที่ดีเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย : รวมถึงการรับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถป้องกันได้ เช่น วัคซีนป้องกันเอชพีวี (HPV vaccine) หรือวัคซีนป้องกันตับอักเสบบี (Hepatitis B vaccine) เป็นต้น

    1. หมั่นตรวจสุขภาพทางเพศ : นอกจากการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรักษาแผลที่อวัยวะเพศ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจจับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในระยะเริ่มต้นและรับการรักษาทันทีเมื่อมีความจำเป็น

ท้ายที่สุดนี้ ข้อสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นแผลที่อวัยวะเพศ ต้องให้ความสำคัญอย่างสูง คือควรจะเข้ารับการรักษาให้หายขาดก่อนมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดต่ออย่างเข้มงวด ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคลแต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม เพราะแผลที่เป็นนี้อาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งสามารถกระจายไปสู่คนอื่นๆในชุมชนได้

สรุป

แผลที่เกิดขึ้นบนอวัยวะเพศอาจมีความร้ายแรงและต้องรีบเข้ารับการตรวจ และรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นในอนาคต การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจอย่างสูง และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อรักษาสุขภาพทางเพศและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นในอนาคต การรักษาและป้องกันแผลที่อวัยวะเพศทันเวลาเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ และควรใช้ข้อมูลและคำแนะนำที่มีคุณภาพจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ในที่สุด เราต้องระมัดระวังและดูแลสุขภาพทางเพศของเราเองอย่างสม่ำเสมอ

✅✅✅✅✅

หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะเพศ เป็นแผลที่อวัยวะเพศ มีปัสสาวะแสบขัด มีตกขาว หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
แนะนำให้ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด อย่าปล่อยโรคให้เป็นเรื้อรัง เกิดผลเสียต่อสุขภาพในอนาคต

รูปชุดตรวจ STD

ด้วยเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง สามารถรักษาให้หายขาดได้ เฮลท์สไมล์ มีให้บริการชุดตรวจด้วยตนเองที่บ้าน ครอบคลุมเชื้อที่ทำให้เกิดแผลที่อวัยวะเพศสูงสุดถึง 15 โรค มีความแม่นยำมากกว่า 95%

เรามีแพคเกจตรวจโรคและความผิดปกติเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ให้เลือกอยู่ 4 แพคเกจ

* ทุกแพคเกจ มีแพทย์เฉพาะทางที่ปรึกษาด้านสูตินรีเวช เพื่อแนะนำการรักษา
* ทุกแพคเกจ รวมค่ายารักษาตามโรคที่พบส่งฟรีถึงบ้านโดยเภสัชกร

    1. แพคเกจปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อการรักษา : 900 บาท
      เหมาะกับคนที่ยังไม่เคยรักษา ต้องการรักษาด้วยตนเอง แพทย์แนะนำยา แนะนำการรักษา การดูแลตนเองหลังรักษาป้องกันการเป็นซ้ำ
    2. แพคเกจตกขาวผิดปกติ 7 โรค : 2,490 บาท
      สำหรับคนที่มีอาการปัสสาวะผิดปกติ หรือตกขาวผิดปกติ
      ตรวจได้ 7 เชื้อ ได้แก่
      – หนองในแท้
      – หนองในเทียม (5 ชนิด)
      – พยาธิในช่องคลอด
    3. แพคเกจแผลที่อวัยวะเพศ 11 โรค : 2,990 บาท *** แนะนำ ***
      สำหรับคนที่มีแผล หรือก้อนที่อวัยวะเพศ
      ตรวจได้ 11 เชื้อ ได้แก่
      แพคเกจที่ 2. + เพิ่ม
      – เริม (2 ชนิด)
      – ซิฟิลิส
      – แบคทีเรียในช่องคลอด
    4. แพคเกจตรวจครบ 15 โรค : 3,290 บาท
      สำหรับมารดาที่มีตกขาวผิดปกติ แนะนำให้ตรวจโรคแบบครบรอบด้าน
      ตรวจได้ 15 เชื้อ ได้แก่
      แพคเกจที่ 3. +เพิ่ม
      – แผลริมอ่อน
      – เชื้อรา (2 ชนิด)
      – เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (2 ชนิด) รวมไปถึงเชื้อ GBS (Group B Streptococcus) ซึ่งส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้รุนแรง

📞 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายการตรวจได้ที่
– Line ID : @Sex.Disease
หรือคลิกได้ที่ลิงค์นี้
https://link.healthsmile.co.th/add-line/STD-content

🌐 อ่านข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจโรคทางเพศ และการรักษา ได้ที่นี่
https://healthsmile.co.th/mens-sti-clinic/
https://healthsmile.co.th/womens-sti-clinic/

✅✅✅✅✅

package STD price
สูตินรีแพทย์ ที่สนใจด้านโครโมโซม ยีน DNA และการตรวจสุขภาพเชิงลึก ให้การดูแลมารดาตั้งครรภ์ ตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์ รักษาสุขภาพทางเพศ และให้ความรู้ด้านการตรวจยีนสุขภาพ การศึกษา - สถานะความรู้ความชำนาญเฉพาะทางที่แพทยสภารับรอง : สาขา สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ( Obstetrics and Gynaecology ) - ประกาศนียบัตรฯ ที่แพทยสภารับรอง : ด้านเวชศาสตร์จีโนมเบื้องต้นสำหรับแพทย์เฉพาะทาง