Last Updated on 16 พฤษภาคม 2024 by นพ.ประสิทธิ์ วิริยะกิจไพบูลย์
Last Updated on 16 พฤษภาคม 2024 by นพ.ประสิทธิ์ วิริยะกิจไพบูลย์
การตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ละเอียดอ่อนในชีวิตของผู้หญิงซึ่งต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ น่าเสียดายที่สารบางอย่างที่พบได้ทั่วไปในบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น Bisphenol A (BPA) เชื่อมโยงกับผลเสียต่อสุขภาพของมารดาและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ในบทความนี้ เราจะสำรวจอันตรายของ BPA ในระหว่างตั้งครรภ์และให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับวิธีตัดสินใจอย่างรอบรู้โดยการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับทั้งแม่และลูกตัวน้อย
เมื่อเราพูดถึง “สาร BPA หรือ Bisphenol A” คุณแม่หลายคนอาจจะได้ยินคำว่า BPA-Free ที่บรรจุภัณฑ์น้ำดื่มส่วนใหญ่ที่ขายบนชั้นวางสินค้า แต่ทราบหรือไม่ว่า สาร BPA นี้มีผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์และการตั้งครรภ์มากว่าที่คิด
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ BPA และความเสี่ยงของมัน
บิสฟีนอล เอ (BPA) เป็นสารประกอบทางเคมีที่ใช้ในการผลิตพลาสติกโพลีคาร์บอเนตและอีพอกซีเรซิน ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในภาชนะบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม สินค้ากระป๋อง และแม้แต่ขวดนมเด็ก(ที่มีคุณภาพต่ำ) แม้ว่า BPA จะถือว่าปลอดภัยในปริมาณเล็กน้อยโดยหน่วยงานกำกับดูแล แต่การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการได้รับ BPA ในระดับที่สูงขึ้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ มีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์และระบบสารสื่อประสาท (Neurotransport) ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์
การศึกษาจำนวนมากเชื่อมโยง BPA กับปัญหาการเจริญพันธุ์ เช่น ภาวะมีบุตรยาก การแท้งบุตรและภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ สารบีพีเอสามารถเลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนและทำลายสมดุลของฮอร์โมนที่จำเป็นต่อพัฒนาการที่ดีของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ ยังสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ และพัฒนาการผิดปกติในทารกแรกเกิด
สาร BPA สามารถเข้าสู่ร่างกายของเด็กในครรภ์ผ่านระบบการหมุนเวียนโลหิตของมารดา ไปยังรกเข้าสู่ร่างกายของทารกในครรภ์ จนส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านพฤติกรรม ความจำ และการเรียนรู้ในทารก
วิธีเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย
เพื่อลดการสัมผัสสาร BPA และเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่ และที่รัก สิ่งสำคัญคือต้องตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์อาหาร ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยคุณเลือกทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า:
- เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ปลอดสาร BPA: มองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “ปลอดสาร BPA” , “BPA-Free” หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น แก้ว สแตนเลส หรือพลาสติกปลอดสาร BPA วัสดุเหล่านี้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่สาร BPA จะรั่วไหลลงสู่อาหาร
- เลือกอาหารสดและไม่ได้บรรจุหีบห่อ: เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ให้เลือกอาหารสดที่ไม่บรรจุหีบห่อหรือบรรจุหีบห่อน้อยที่สุด ซึ่งช่วยลดโอกาสการปนเปื้อนของสาร BPA รวมถึงการสัมผัสกับสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงอาหารกระป๋อง: สินค้ากระป๋องเป็นหนึ่งในแหล่งที่มาหลักของการสัมผัสสาร BPA เลือกใช้ของสดหรือของแช่แข็งแทน หากคุณต้องบริโภคสินค้ากระป๋อง ให้มองหายี่ห้อที่แจ้งอย่างชัดเจนว่าบรรจุภัณฑ์นั้นๆปลอดสาร BPA
- หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติกที่เข้าไมโครเวฟได้: แม้บรรจุภัณฑ์จะแจ้งไว้ว่า สามารถเข้าไมโครเวฟได้ แต่หากบรรจุภัณฑ์นั้นมีสาร BPA ความร้อนที่เกิดจากการใช้ไมโครเวฟก็อาจทำให้สาร BPA ซึมเข้าสู่อาหารได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะพลาสติกที่เข้าไมโครเวฟหรือใช้พลาสติกแรปคลุมอาหารระหว่างที่อุ่นอาหาร ให้ใช้ภาชนะแก้วหรือเซรามิกที่ปลอดภัยต่อไมโครเวฟแทน
- ตรวจสอบรหัสการรีไซเคิล : ภาชนะพลาสติกมักจะมีรหัสการรีไซเคิลพิมพ์อยู่ที่ด้านล่าง หลีกเลี่ยงเครื่องหมาย “3” หรือ “7” เนื่องจากอาจมีสาร BPA มองหารหัส “1” “2” หรือ “5” เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า (อ่านเพิ่ม : สัญลักษณ์ของการรีไซเคิลพลาสติก)
สารเคมีอย่างอื่นในบรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์
นอกเหนือจากสาร BPA บรรจุภัณฑ์พลาสติกยังอาจมีสารเคมีอื่นๆที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพมารดาและทารกในครรภ์ หลักๆได้แก่ :
- Phthalates (ทาเลต, พาทาเลต): ทาเลตเป็นกลุ่มของสารเคมีที่ใช้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความนุ่มของพลาสติก PVC บางทาเลตอาจมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์, ฮอร์โมนเพศ, และการพัฒนาการของเด็กในครรภ์.
- Styrene (สไตรีน): สไตรีนเป็นสารเคมีที่มักพบในสินค้าพลาสติกที่ผลิตจากโพลีสไตรีน เช่น แก้วพลาสติกและจานใช้แล้วทิ้ง สารนี้สามารถรั่วซึมเมื่อได้รับความร้อน และมีความเป็นไปได้ว่าจะทำลายสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ.
- Vinyl Chloride (ไวนิลคลอไรด์): ไวนิลคลอไรด์เป็นสารเคมีที่ใช้ในการผลิตพลาสติก PVC และสามารถเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในมนุษย์.
การที่เรารู้ว่าสารเคมีเหล่านี้อาจมีอยู่ในบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีความพร้อมที่จะปกป้องสุขภาพของเราและครอบครัวเราได้ดีขึ้น.
สรุป
ในระหว่างตั้งครรภ์ สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งมารดาตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ที่รัก BPA ซึ่งเป็นสารเคมีที่พบได้ทั่วไปในบรรจุภัณฑ์อาหาร ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมารดาและพัฒนาการของทารกในครรภ์ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดสาร BPA เช่น แก้ว สแตนเลส หรือพลาสติกที่ปลอดสาร BPA คุณแม่สามารถลดความเสี่ยงต่อสารอันตรายนี้ได้ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์พลาสติกหลายๆชนิด ยังมีสารเคมีอื่นๆที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อีก เช่น Phthalates (ทาเลต, พาทาเลต), Styrene (สไตรีน), Vinyl Chloride (ไวนิลคลอไรด์) ดังนั้น การเลือกใช้อาหารที่สดและไม่ได้บรรจุหีบห่อ การหลีกเลี่ยงสินค้ากระป๋อง และการงดใช้ภาชนะพลาสติกที่เข้าไมโครเวฟได้ ยังช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ BPA ได้อีกด้วย คุณแม่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับตนเองและลูกน้อยที่น่ารักได้ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
บทความโดย นพ.ประสิทธิ์ วิริยะกิจไพบูลย์
อ้างอิง : Association between prenatal exposure to bisphenol a and birth outcomes
https://www.mass.gov/info-details/protect-your-baby-from-bpa-bisphenol-a
The impact of bisphenol A on the placenta
✅✅✅✅✅
เฮลท์สไมล์ บริการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์ และตรวจโครโมโซมทารกในครรภ์ ครบ 23 คู่ทุกโครโมโซมที่มีในมนุษย์ รู้เพศ และโรคอื่นๆที่เกิดจากการขาด/เกินของโครโมโซมขนาดเล็กได้มากถึง 92 โรค กับ Brand NIFTY® และ NGD NIPS
✔ ตรวจเลือดดาวน์ซินโดรม และโครโมโซมอื่นๆ ผลแม่นยำสูง 99.9%
✔ เจาะเลือดเพียง 10 ซีซี ไม่เสี่ยงแท้ง
✔ ราคาคุ้มค่า ประหยัด ค่าบริการเริ่มต้นที่ 9,500 บาท รวมค่าบริการเจาะเลือดถึงบ้าน และแพทย์อ่านผลให้ทุกเคส
✔ สะดวก สบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกนอกสถานที่
✔ บริการตรวจถึงบ้านทั่วประเทศ ฟรี
✅ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @Healthsmile
📞 โทร : 089 874 9565
🌐 อ่านข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม และโครโมโซมของทารกในครรภ์ ได้ที่นี่ https://healthsmile.co.th/prenatal-screening/