ในยุคปัจจุบัน ความสัมพันธ์มีความซับซ้อนมากขึ้น สถิติการหย่าร้างและการนอกใจ (Infidelity) ที่สูงขึ้นทำให้ความเชื่อใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อมี “ชีวิตน้อยๆ” เข้ามาเกี่ยวข้อง ความกังวลใจเรื่อง “สายเลือดที่แท้จริง” ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นเรื่องที่ต้องจัดการด้วยความถูกต้อง แม่นยำ และยุติธรรมต่อทุกฝ่าย ทั้งต่อตัวคุณเองและอนาคตของเด็ก
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจผูกมัดทางกฎหมายด้วยการเซ็นรับรองบุตรหรือจ่ายค่าเลี้ยงดูระยะยาว การตรวจ DNA คือคำตอบทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวที่จะช่วยให้คุณก้าวต่อไปได้อย่างมั่นใจ
1. เช็กไทม์ไลน์: การเปรียบเทียบอายุครรภ์ vs วันที่มีเพศสัมพันธ์
การรู้อายุครรภ์ที่แน่นอนช่วยให้คำนวณวันปฏิสนธิ (Conception Date) ได้ ซึ่งสามารถนำมาเทียบกับช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อประเมินความเป็นไปได้เบื้องต้นว่าใครคือบิดา
สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการคำนวณวันปฏิสนธิ ได้ที่นี่ : 4 วิธีคาดเดาว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้อง (พร้อมเครื่องมือคำนวณวันปฏิสนธิ)
แพทย์จะคำนวณอายุครรภ์ 2 แบบ ซึ่งคุณต้องเข้าใจความแตกต่าง:
-
อายุครรภ์จากประจำเดือนครั้งสุดท้าย (LMP): นับจากวันแรกของประจำเดือนรอบสุดท้าย (มักมากกว่าอายุจริงของทารกประมาณ 2 สัปดาห์)
-
อายุครรภ์จากการอัลตราซาวนด์: มีความแม่นยำสูงในการบอกขนาดตัวและพัฒนาการ
ตาราง: การเปรียบเทียบช่วงเวลาเพื่อประเมินช่วงระยะเวลาปฏิสนธิ
| ข้อมูลที่ทราบ | สิ่งที่บอกได้ | ข้อควรระวัง |
| – วันที่มีเพศสัมพันธ์ | ช่วงเวลาที่มีโอกาสปฏิสนธิ | อสุจิสามารถอยู่ในร่างกายหญิงได้นานถึง 5 วันก่อนไข่ตก |
| – วันตกไข่ | วันที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุด | รอบเดือนของผู้หญิงแต่ละคนอาจคลาดเคลื่อนได้ |
| – ผลอัลตราซาวนด์ | อายุทารกที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด | ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการคำนวณที่แม่นยำ |
หมายเหตุ: การนับวันเป็นเพียงการคาดคะเนเบื้องต้น ไม่สามารถใช้ยืนยันทางกฎหมายหรือวิทยาศาสตร์ได้ 100% เท่ากับการตรวจ DNA
2. หน้าที่ทางกฎหมาย: สิ่งที่ต้องรู้ก่อน “เซ็นรับรองบุตร”
การเซ็นรับรองบุตรมีผลผูกพันทางกฎหมายทันที ทำให้เกิดหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดู การเพิกถอนในภายหลังทำได้ยากและต้องใช้กระบวนการทางศาล
ความแตกต่างระหว่าง “พ่อตามสายเลือด” และ “พ่อตามกฎหมาย”:
-
พ่อตามสายเลือด (Biological Father): ผู้ให้กำเนิดทางพันธุกรรม มี DNA ตรงกับเด็ก 50%
-
พ่อตามกฎหมาย (Legal Father): ผู้ที่จดทะเบียนสมรสกับแม่เด็ก หรือจดทะเบียนรับรองบุตร ซึ่งมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูตามกฎหมาย
นี่คือข้อมูลสำคัญที่คุณต้องทราบครับ เพราะคำว่า “พ่อทางกฎหมาย” (Legal Father) หรือ “บิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย” นั้น ไม่ได้มีแค่ชื่อในใบเกิด แต่มาพร้อมกับ “หน้าที่และความรับผิดชอบ” ที่ผูกพันยาวนานจนกว่าลูกจะบรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีบริบูรณ์) และส่งผลต่อทรัพย์สินของคุณโดยตรง เมื่อคุณมีสถานะเป็นพ่อทางกฎหมาย (ไม่ว่าจะโดยการจดทะเบียนสมรสกับแม่เด็ก หรือจดทะเบียนรับรองบุตร) คุณจะมีหน้าที่หลักๆ ดังนี้
| หัวข้อหน้าที่/สิทธิ | รายละเอียดความรับผิดชอบ | ผลผูกพันและข้อควรระวัง (Critical Impact) |
|
1. ค่าอุปการะเลี้ยงดู |
รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำรงชีพ: |
หนักที่สุด: ต้องส่งเสียจนลูกอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือจนจบ ป.ตรี (ตามดุลยพินิจศาล) แม้จะหย่าร้างกับแม่เด็ก หน้าที่นี้ยังไม่จบ ต้องจ่ายต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งของศาล |
|
2. อำนาจปกครองบุตร |
ตัดสินใจแทนลูกในเรื่องสำคัญ เช่น |
ความรับผิดชอบสูง: หากตัดสินใจพลาด อาจส่งผลต่อชีวิตเด็ก และต้องร่วมรับผิดชอบการกระทำของเด็กตามกฎหมาย |
|
3. สิทธิรับมรดก |
ลูกมีสถานะเป็น “ทายาทโดยธรรม ลำดับที่ 1” | กระทบทรัพย์สิน: ลูกมีสิทธิได้ส่วนแบ่งมรดกเท่ากับลูกคนอื่นๆ (ถ้ามี) หรือเท่ากับคู่สมรสของคุณทันทีที่คุณเสียชีวิต |
|
4. การใช้นามสกุล |
บุตรมีสิทธิตามกฎหมายที่จะใช้ “นามสกุลของบิดา” | แก้ไขยาก: หากพิสูจน์ทีหลังว่าไม่ใช่พ่อ การเปลี่ยนนามสกุลกลับจะยุ่งยากเรื่องเอกสารราชการ และกระทบจิตใจเด็กอย่างรุนแร |
ความเสี่ยงที่คุณต้องรู้ (Critical Warning)
หากคุณ “เซ็นรับรองบุตร” ไปแล้ว กฎหมายจะสันนิษฐานทันทีว่าคุณคือพ่อของเด็ก
-
หากวันหนึ่งคุณมารู้ทีหลังว่า “เด็กไม่ใช่ลูกของคุณ” คุณจะ ไม่สามารถ หยุดจ่ายค่าเลี้ยงดูได้ทันที
-
ต้องฟ้องร้องต่อศาลเท่านั้น: เพื่อขอเพิกถอนความเป็นพ่อ ซึ่งต้องใช้ ผลตรวจ DNA เป็นหลักฐานสำคัญ และกระบวนการนี้ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาการแบกรับภาระของลูกที่ไม่ใช่สายเลือด (Paternity Fraud)
-
ก่อนเซ็นรับรองบุตร: ควรตรวจ DNA เพื่อความมั่นใจ 100%
-
ถ้าเซ็นไปแล้วแต่สงสัย: รีบตรวจ DNA ทันทีที่สงสัย เพื่อใช้ผลทางวิทยาศาสตร์ไปปรึกษาทนายความ
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: หากมีความลังเลสงสัย แม้เพียงเล็กน้อย ควรชะลอการเซ็นเอกสารทางกฎหมายจนกว่าจะได้ผลยืนยันทางวิทยาศาสตร์
3. ประโยชน์ของการตรวจ DNA “ก่อน” ให้คำยินยอมเลี้ยงดู
การตรวจ DNA ช่วยป้องกันปัญหา Paternity Fraud (การหลอกให้รับเป็นพ่อ) และช่วยวางแผนสุขภาพของเด็กได้ถูกต้องจากการรู้ประวัติพันธุกรรมที่แท้จริง
การตรวจความเป็นพ่อ (Paternity Test) ในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องรอให้เด็กคลอดออกมา เฮลท์สไมล์ (HealthSmile) ให้บริการตรวจได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ (Prenatal Paternity Test)
ข้อดีของการตรวจความเป็นบิดาขณะตั้งครรภ์ หรือ ตรวจหลังคลอด ก่อนที่จะให้คำยินยอมเลี้ยงดู
-
ความชัดเจนทางใจ: ลดความเครียดและความหวาดระแวงระหว่างตั้งครรภ์
-
ความยุติธรรมทางการเงิน: ไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับบุตรที่ไม่ใช่สายเลือดของตน
-
สิทธิการรักษาพยาบาล: เด็กจะได้รับข้อมูลทางพันธุกรรมที่ถูกต้องสำหรับการรักษาโรคในอนาคต
4. เลี้ยงดูไปแล้ว สงสัยทีหลัง ตรวจ DNA ได้หรือไม่?
การตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นบิดาทำได้ตลอดชีวิต
หากคุณเริ่มสงสัยหลังจากที่เด็กโตขึ้น หรือหลังจากที่จ่ายค่าเลี้ยงดูไปแล้วสักพัก คุณสามารถเข้ารับการตรวจได้ โดยวิธีที่ง่ายและนิยมที่สุดคือ การเก็บตัวอย่างจากกระพุ้งแก้ม (Buccal Swab): ทำได้ง่าย ไม่เจ็บตัว แม่นยำสูง 99.99% เทียบเท่าการเจาะเลือด โดยเบื้องต้นหากต้องการรู้เพื่อความสบายใจ จะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการตรวจเพื่อใช้เอกสารทางกฎหมายหรือการฟ้องร้อง
5. หากถูกหลอกให้เลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูก (Paternity Fraud) ต้องทำอย่างไร?
หากผล DNA ยืนยันว่า “ไม่ได้เป็นบิดา-บุตรทางสายเลือด” คุณสามารถใช้ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์นี้เพื่อยื่นร้องต่อศาลในการ “เพิกถอนการรับรองบุตร” และระงับการจ่ายค่าเลี้ยงดูได้
ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติเมื่อสงสัย:
-
ตั้งสติและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: อย่าเพิ่งโวยวายหรือใช้อารมณ์ ให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เพื่อขอคำแนะนำการตรวจ
-
ตรวจ DNA เพื่อยืนยันผล: ใช้บริการจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากลและเชื่อถือได้ เช่น บริการจากเครือโรงพยาบาลหรือแล็บชั้นนำ
-
ปรึกษาทนายความ: นำผลตรวจ DNA (ที่เป็นทางการ) ไปปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการทางศาลต่อไป ทั้งเรื่องการเพิกถอนสิทธิและการเรียกค่าเสียหาย (ถ้ามี)
ทำไมต้องตรวจ DNA กับ HealthSmile?
HealthSmile โดย บริษัท วัฒนา เมดิคอล แอนด์ เวลล์บีอิง จำกัด เข้าใจความละเอียดอ่อนของปัญหานี้ เราให้บริการด้วยมาตรฐานทางการแพทย์สูงสุด:
-
แม่นยำ 99.99%: วิเคราะห์ผลในห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากล (ISO 17025)
-
เป็นความลับสูงสุด: ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอก
-
หลากหลายทางเลือก:
-
ตรวจตั้งแต่ตั้งครรภ์ (Non-Invasive Prenatal Paternity): เจาะเลือดของแม่ และเก็บตัวอย่างจากพ่อ (กระพุ้งแก้ม/เลือด/เล็บ/ผม) ปลอดภัย 100% ต่อทารก ไม่เสี่ยงแท้ง
-
ตรวจหลังคลอด: เก็บตัวอย่างจากกระพุ้งแก้ม ง่าย รวดเร็ว
-
-
บริการให้คำปรึกษา: เรามีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ ไม่ใช่แค่เรื่องผลตรวจ แต่รวมถึงแนวทางการดูแลสุขภาพต่อเนื่อง
บทความนี้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อความเข้าใจเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมาย หากท่านมีข้อพิพาททางกฎหมาย ควรนำผลตรวจ DNA ปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการต่อไป
📞 ปรึกษาปัญหาสุขภาพพันธุกรรมและความเป็นพ่อได้ที่
HealthSmile
-
Line ID: @HealthSmile (มี @ ด้านหน้า)
-
โทรศัพท์: 089-874-9565
-
เว็บไซต์: https://HealthSmile.co.th
บทความนี้ได้รับการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นตามหลักพันธุศาสตร์สากล และกฎหมายเบื้องต้น โดยทีมงานวิชาการ บริษัท วัฒนา เมดิคอล แอนด์ เวลล์บีอิง จำกัด (HealthSmile)
อ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ครอบครัว และ บรรพ 6 มรดก:
-
แหล่งที่มา: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (Office of the Council of State) – https://www.krisdika.go.th/
The American College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG):
-
Committee Opinion No 700: Methods for Estimating the Due Date.

