Site icon HealthSmile.co.th ตรวจสุขภาพ

เจาะลึกแนวทางปฏิบัติเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ยอมตรวจ DNA พิสูจน์พ่อ-ลูก

แนวทางปฏิบัติเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ยอมตรวจ DNA พิสูจน์พ่อ-ลูก

แนวทางปฏิบัติเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ยอมตรวจ DNA พิสูจน์พ่อ-ลูก

เจาะลึกแนวทางปฏิบัติเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ยอมตรวจ DNA พิสูจน์พ่อ-ลูก

ในโลกอุดมคติ เมื่อเกิดข้อสงสัยเรื่องสายเลือด การเดินจูงมือกันไปตรวจ DNA คือทางออกที่ง่ายและชัดเจนที่สุด แต่ในโลกความเป็นจริง หลายครั้งฝ่ายที่ถูกร้องขอ (เช่น ผู้ชายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อ หรือฝ่ายแม่ที่ไม่ยอมให้ลูกตรวจ) มักจะเลือกวิธี “เงียบ นิ่ง และปฏิเสธ”

เมื่อทางตันเกิดขึ้น คุณมีทางเลือก 2 ทางหลัก

  1. ถูกกฎหมายแต่ใช้เวลา
  2. รวดเร็วแต่มีข้อที่ต้องระวัง

บทความนี้จะกล่าวถึงทั้งสองวิธีอย่างละเอียดค่ะ


1. วิธีปกติ (The Legal Route) : การใช้กระบวนการทางศาล ถูกกฎหมายแต่ใช้เวลา

นี่คือ “ทางหลวง” ที่กฎหมายกำหนดไว้ แม้จะดูอ้อมและใช้เวลา แต่เป็นวิธีเดียวที่มีผลบังคับใช้ได้จริงตลอดชีวิต

ขั้นตอนการดำเนินการอย่างละเอียด

  1. การเจรจาและทำหนังสือบอกกล่าว (Notice) :

    • เริ่มจากการให้ทนายความออกหนังสือเชิญตัวมาเจรจาเพื่อตรวจพิสูจน์

    • หากอีกฝ่ายเพิกเฉย หนังสือนี้จะเป็นหลักฐานชิ้นแรกในศาลว่า “เราพยายามแก้ปัญหาโดยสันติแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ร่วมมือ”

  2. ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว :

    • โจทก์ (ผู้ร้อง) ต้องยื่นฟ้องโดยบรรยายฟ้องให้เห็นถึง “พฤติการณ์ที่แสดงความสัมพันธ์” (เช่น เคยอยู่กินกันช่วงไหน, ภาพถ่ายคู่, แชทสนทนา, การโอนเงินเลี้ยงดู) เพื่อให้ศาลเห็นมูลเหตุที่น่าเชื่อถือว่าควรสั่งให้มีการตรวจ

  3. การเผชิญสืบและการไกล่เกลี่ย:

    • ศาลเยาวชนฯ จะเน้นการไกล่เกลี่ยเป็นหลัก เจ้าหน้าที่จะพยายามคุยกับทั้งสองฝ่ายให้ตกลงกันตรวจโดยดีเพื่อประโยชน์ของเด็ก

  4. ใช้ข้อบังคับทางกฎหมาย (Key Legal Mechanism):

    • หากจำเลยยังคงปฏิเสธที่จะไม่ตรวจ แม้ว่าจะมีการเข้ามาไกล่เกลี่ยแล้ว ศาลมีอำนาจที่จะใช้ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 160 ออกมาใช้ ซึ่งมีใจความสำคัญระบุว่า ถ้าคู่ความฝ่ายใดไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร “ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผลตรวจจะเป็นโทษแก่ฝ่ายนั้น”  แต่ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้นบางประการ

    • แปลภาษาชาวบ้าน: ถ้าผู้ชายไม่ยอมตรวจ ศาลจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่า “คนที่ปฏิเสธมีโอกาสที่จะเป็นตามที่ฝ่ายตรงข้ามกล่าวอ้าง” ทันที โดยที่ยังไม่ได้เข้าตรวจ DNA

ข้อดี (Pros)

ข้อเสีย (Cons)


HealthSmile ให้บริการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดา ออกเอกสารใช้ประกอบทางกฎหมายได้ ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 – 22,000 บาท

ติดต่อ LINE ID : @HealthSmile หรือคลิกที่ link นี้เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://HealthSmile.co.th/dna-paternity-test


2. วิธีที่รวดเร็วกว่ากระบวนการทางศาล : การตรวจเพื่อความสบายใจ (Peace of Mind Test) รวดเร็วแต่มีข้อที่ต้องระวัง

วิธีนี้คือที่สะดวก และง่ายที่สุดสำหรับคนที่ร้อนใจ อยากรู้ผลอย่างรวดเร็ว โดยใช้วัตถุพยานที่เก็บได้จากอีกฝ่ายมาตรวจ

วิธีการเก็บสิ่งส่งตรวจมาตรวจ DNA

เนื่องจากไม่สามารถพาเจ้าตัวเข้ามาเก็บสิ่งส่งตรวจได้ ผู้ตรวจจึงต้องเก็บตัวอย่าง DNA เองจากสิ่งส่งตรวจต่างๆ เช่น

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งส่งตรวจอื่นๆได้ที่นี่ : ตรวจ DNA พิสูจน์พ่อลูกจากสิ่งใดได้บ้าง? เส้นผม เล็บ แปรงสีฟัน ฯลฯ
HealthSmile จะคิดค่าบริการสกัด DNA จากสิ่งส่งตรวจชนิดพิเศษ ตัวอย่างละ 3,900 บาท

ข้อจำกัดทางเทคนิค (Technical Limitations)

ความเสี่ยงทางกฎหมายและจริยธรรม (Legal & Ethical Risks) – จุดที่ต้องระวังที่สุด

ในประเทศไทย การเก็บสิ่งส่งตรวจโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับทราบ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องจริยธรรม แต่เป็นเรื่องของบทลงโทษทางกฎหมายทางแพ่งและอาญาด้วย เนื่องจากเป็นการ ละเมิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพราะข้อมูลพันธุกรรม (Genetic Data) ถูกจัดเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวสูง (Sensitive Data)” ตามมาตรา 26 ดังนั้นการเก็บรวบรวม หรือการใช้โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งถือว่าผิดกฎหมาย หากอีกฝ่ายรู้ตัว เขาสามารถฟ้องคุณกลับข้อหาละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือทำให้เสียชื่อเสียงได้ ซึ่งจะทำให้คุณเปลี่ยนสถานะจาก “ผู้เสียหาย” เป็น “จำเลย” แทน

ข้อดี (Pros)

ข้อเสีย (Cons)


HealthSmile ให้บริการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดา เพื่อความสบายใจ 12,000 บาท สามารถเก็บจากเล็บ / ผม / แปรงสีฟัน / ฯลฯ

ติดต่อ LINE ID : @HealthSmile หรือคลิกที่ link นี้เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://HealthSmile.co.th/dna-paternity-test

DNA paternity package


แนวทางป้องกันปัญหาทางกฎหมาย กรณีอีกฝ่ายไม่ยินยอม

วิธีที่ดีที่สุด คือการขอตรวจอย่่างตรงไปตรงมา โดยทางทีมงาน HealthSmile ขอเสนอเทคนิคคร่าวๆในการเจรจาไว้ดังนี้

เทคนิคการพูดเจรจาให้อีกฝ่ายยินยอมตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ (Do’s & Don’ts)

แต่หากไม่สามารถเจรจาให้อีกฝ่ายยอมตรวจได้ หรือมีความกังวลว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาเชิงลบต่อการขอตรวจ DNA ก็มีแนวทางเพื่อ “จำกัดความเสี่ยง” และ “แนวทางการลดผลกระทบ” (Damage Control) หากคุณตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ดังนี้

1. แนะนำว่าต้องเป็นการตรวจแบบ “ไม่ระบุชื่อ” (Anonymous Test) เท่านั้น

2. ห้ามเปิดเผยผลตรวจแก่บุคคลที่สาม (Zero Disclosure)

3. ห้ามนำไปใช้ในทางกฎหมายเด็ดขาด (Inadmissible Evidence)


HealthSmile ให้บริการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดา เริ่มต้นเพียง 12,000 บาท ความแม่นยำมากกว่า 99.9%

ติดต่อ LINE ID : @HealthSmile หรือคลิกที่ link นี้เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://HealthSmile.co.th/dna-paternity-test

[Infographic] สิ่งส่งตรวจที่ส่งตรวจ DNA ความเป็นพ่อลูกได้


คำเตือน: เนื้อหาข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลประกอบความเข้าใจ ไม่ใช่คำปรึกษาทางกฎหมาย หากมีข้อพิพาทเกิดขึ้น ท่านควรปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญโดยตรง


 

Exit mobile version