ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป มีนโยบายให้ประชากรในประเทศตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางโรคได้ฟรี โดยที่ไม่ต้องมีอาการ และทำเป็นมาตรฐานสำหรับกลุ่มประชากรของประเทศนั้นๆ เพื่อให้เข้ารับการตรวจก่อนที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพ
แต่สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีเกณฑ์มาตรฐานในการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในคนไทยที่ชัดเจนแน่นอน และให้ตรวจคัดกรองฟรีแค่การติดเชื้อ HIV เท่านั้น (อ่านเพิ่ม : สวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศของคนไทย มีอะไรบ้าง ประกันสังคม บัตรทอง ข้าราชการ) ดังนั้น ในบทความนี้ จึงเอามาตรฐานการคัดกรองของประเทศสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลของ CDC (Center of Diseases Control) มาเพื่อเป็นแนวทางให้เราได้ทราบกัน
ภาพรวมของคำแนะนำในการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (สหรัฐอเมริกา)
-
- ผู้ใหญ่และวัยรุ่นทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 13 ถึง 64 ปี ควรได้รับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
-
- สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ทุกคน ที่อายุน้อยกว่า 25 ปีควรได้รับการตรวจหาหนองในแท้และหนองในเทียมทุกปี ผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไปที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีคู่นอนใหม่หรือหลายคน หรือคู่นอนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรได้รับการตรวจหาหนองในแท้และหนองในเทียมทุกปี
-
- สตรีที่ตั้งครรภ์ทุกคน ควรได้รับการตรวจหาซิฟิลิส เอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นของการตั้งครรภ์ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อควรได้รับการตรวจหาหนองในเทียมและหนองในแท้ตั้งแต่ช่วงต้นของการตั้งครรภ์ อาจต้องทำการทดสอบซ้ำในบางกรณี
-
- ชายข้ามเพศ , หญิงข้ามเพศ และชายอื่น ๆที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ควรได้รับการตรวจดังนี้:
-
- อย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับซิฟิลิส หนองในเทียม และหนองใน ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนหรือไม่ระบุชื่อควรได้รับการตรวจบ่อยขึ้น (เช่น ทุก 3 ถึง 6 เดือน)
-
- อย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับเชื้อเอชไอวี และอาจได้ประโยชน์จากการตรวจหาเชื้อเอชไอวีบ่อยขึ้น (เช่น ทุก 3 ถึง 6 เดือน)
-
- อย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับโรคตับอักเสบซี หากติดเชื้อเอชไอวี
-
- ชายข้ามเพศ , หญิงข้ามเพศ และชายอื่น ๆที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ควรได้รับการตรวจดังนี้:
-
- ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมทางเพศที่อาจทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV หรือใช้อุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างน้อยปีละครั้ง
-
- ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทางทวารหนัก ควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพเกี่ยวกับทางเลือกในการตรวจโรคในคอและทวารหนัก
รายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองโรคแต่ละโรค
การตรวจคัดกรองหนองในเทียม (Chlamydia trachomatis)
อ่านต่อ : Chlamydia trachomatis โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการน้อย แต่ปัญหาเยอะ
ผู้หญิง | – หญิงที่มีเพศสัมพันธ์อายุต่ำกว่า 25 ปี1 – สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น* 1 – ตรวจซ้ำประมาณ 3 เดือนหลังการรักษา2 – การตรวจหนองในเทียมทางทวารหนัก สามารถพิจารณาทำในสตรีที่มีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยง โดยตัดสินใจร่วมกันกับผู้ให้บริการ2,3,4 |
สตรีมีครรภ์ | – หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีทุกคน1 – หญิงตั้งครรภ์อายุ 25 ปีขึ้นไปหากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น* 1 – ตรวจซ้ำช่วงไตรมาสที่ 3 สำหรับสตรีอายุต่ำกว่า 25 ปีหรือกลุ่มเสี่ยง2 – หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อหนองในเทียมควรได้รับการตรวจรักษา 4 สัปดาห์หลังการรักษา และตรวจซ้ำภายใน 3 เดือน2 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – มีหลักฐานไม่เพียงพอสำหรับการตรวจคัดกรองในกลุ่มชายรักต่างเพศที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการติดเชื้อ แต่อาจจะ พิจารณาตรวจคัดกรองชายที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เข้ารับบริการในคลินิกวัยรุ่น, อยู่ในทัณฑสถาน, เข้ารับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคอื่นๆ 1,5 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย (MSM) | – ตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ ณ จุดที่มีการสัมผัสขณะมีเพศสัมพันธ์ (ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก) โดยไม่คำนึงถึงการใช้ถุงยางอนามัย2 – ตรวจทุก 3 ถึง 6 เดือนหากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (เช่น ชายรักชายที่ใช้ยา PrEP ติดเชื้อ HIV หรือหากพวกเขาหรือคู่นอนมีคู่นอนหลายคน) 2 |
คนข้ามเพศและบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ | – คำแนะนำในการตรวจคัดกรองควรปรับเปลี่ยนตามลักษณะทางกายภาพ เช่น หญิงที่ข้ามเพศเป็นชาย อายุน้อยกว่า 25 ปี แต่ยังมีช่องคลอดและปากมดลูก ควรตรวจเป็นประจำทุกปี เหมือนกับเพศหญิงทั่วไป2 – พิจารณาการตรวจคัดกรองที่บริเวณทวารหนักตามพฤติกรรมทางเพศและการสัมผัสขณะมีเพศสัมพันธ์2 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – สำหรับผู้ที่ยังมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ ให้ตรวจคัดกรองในการประเมิน HIV ครั้งแรก และอย่างน้อยทุกปีหลังจากนั้น2,6 – อาจตรวจคัดกรองถี่ขึ้นกรณีที่มีพฤติกรรมเสี่ยง และมีการระบาดในพื้นที่2 |
การตรวจคัดกรองหนองในแท้ (Neisseria gonorrhea)
ผู้หญิง | – หญิงที่มีเพศสัมพันธ์อายุต่ำกว่า 25 ปี1 – สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปหากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น* 1 – ตรวจซ้ำ 3 เดือนหลังการรักษา2 – การตรวจคัดกรองหนองในคอหอยและทวารหนักสามารถพิจารณาในสตรีโดยพิจารณาจากพฤติกรรมทางเพศและการสัมผัสที่รายงาน โดยผ่านการตัดสินใจทางคลินิกร่วมกันระหว่างผู้ป่วยและผู้ให้บริการ2,3,4 |
สตรีมีครรภ์ | – หญิงตั้งครรภ์ทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี และผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไปหากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น* 1 – ตรวจซ้ำช่วงไตรมาสที่ 3 สำหรับสตรีอายุต่ำกว่า 25 ปีหรือกลุ่มเสี่ยง2 – หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคหนองในควรได้รับการตรวจซ้ำภายใน 3 เดือน2 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – มีหลักฐานไม่เพียงพอสำหรับการตรวจคัดกรองชายรักต่างเพศที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการติดเชื้อ1 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – อย่างน้อยปีละครั้งสำหรับกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ ณ จุดที่สัมผัส (ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก หลอดลม) โดยไม่คำนึงถึงการใช้ถุงยางอนามัย2 – ทุก 3 ถึง 6 เดือน หากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น2 |
คนข้ามเพศและบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ | – คำแนะนำในการตรวจคัดกรองควรปรับเปลี่ยนตามลักษณะทางกายวิภาคศาสตร์ (เช่น ควรขยายการตรวจคัดกรองโรคหนองในเป็นประจำทุกปีในสตรีเพศที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปีไปยังชายข้ามเพศและบุคคลหลากหลายทางเพศที่มีปากมดลูก หากอายุมากกว่า 25 ปี ให้ตรวจคัดกรองหากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น .) 2 – พิจารณาการตรวจคัดกรองที่บริเวณคอหอยและทวารหนักตามรายงานพฤติกรรมทางเพศและการสัมผัส2 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ ให้ตรวจคัดกรองในการประเมิน HIV ครั้งแรก และอย่างน้อยทุกปีหลังจากนั้น2,6 – การตรวจคัดกรองถี่ขึ้นอาจเหมาะสมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงของแต่ละบุคคลและระบาดวิทยาในพื้นที่2 |
การตรวจคัดกรองซิฟิลิส (Treponema pallidum : syphilis)
ผู้หญิง | – คัดกรองผู้หญิงที่ไม่แสดงอาการที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (ประวัติการถูกจองจำ หรืองานบริการทางเพศ ภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ/ชาติพันธุ์) สำหรับการติดเชื้อซิฟิลิส2,7 |
สตรีมีครรภ์ | – หญิงตั้งครรภ์ทุกคนที่ฝากครรภ์ครั้งแรก – ทดสอบซ้ำที่อายุครรภ์ 28 สัปดาห์และขณะคลอดหากมีความเสี่ยงสูง (อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีโรคซิฟิลิสสูงหรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซิฟิลิสในระหว่างตั้งครรภ์ [การใช้ยาในทางที่ผิด, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์, คู่นอนหลายคน, คู่นอนใหม่, คู่ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์]) 2 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – คัดกรองผู้ใหญ่ที่ไม่แสดงอาการที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (ประวัติการถูกจองจำหรือการค้าประเวณี ภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ/ชาติพันธุ์ และเป็นชายอายุน้อยกว่า 29 ปี) สำหรับการติดเชื้อซิฟิลิส2,7 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – อย่างน้อยปีละครั้งสำหรับกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์2 – ทุก 3 ถึง 6 เดือน หากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น2 – คัดกรองผู้ใหญ่ที่ไม่แสดงอาการที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (ประวัติการถูกจองจำหรือการค้าประเวณี ภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ/ชาติพันธุ์ และเป็นชายอายุน้อยกว่า 29 ปี) สำหรับการติดเชื้อซิฟิลิส2,7 |
คนข้ามเพศและคนหลากหลายทางเพศ | – พิจารณาการคัดกรองอย่างน้อยปีละครั้งตามรายงานพฤติกรรมทางเพศและการสัมผัส2 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ ให้ตรวจคัดกรองในการประเมิน HIV ครั้งแรก และอย่างน้อยทุกปีหลังจากนั้น2,6 – การตรวจคัดกรองถี่ขึ้นอาจเหมาะสมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงของแต่ละบุคคลและระบาดวิทยาในพื้นที่2 |
การตรวจคัดกรองเริม (Herpes simplex virus : HSV)
ผู้หญิง | – พิจารณาตรวจ HSV สำหรับผู้หญิงที่เข้ามาเพื่อปรึกษาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน) 2 |
สตรีมีครรภ์ | – ไม่แนะนำให้ทำการตรวจคัดกรอง HSV-2 ในหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตาม การตรวจอาจมีประโยชน์กับหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HSV และให้คำแนะนำคำแนะนำเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศระหว่างตั้งครรภ์2 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – การตรวจ HSV สามารถพิจารณาได้สำหรับผู้ชายที่เข้ามาเพื่อปรึกษาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (โดยเฉพาะสำหรับผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน) 2 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – สามารถพิจารณาตรวจได้ หากไม่ทราบสถานะการติดเชื้อในกลุ่มชายรักชายที่มีการติดเชื้อที่ระบบสืบพันธุ์ ที่ไม่เคยได้รับการวินิจฉัยก่อนหน้านี้2 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – ควรพิจารณาการตรวจ HSV สำหรับบุคคลที่เข้ามาเพื่อปรึกษาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีคู่นอนหลายคน) 2 |
การตรวจคัดกรองปรสิตในช่องคลอด (Trichomonas)
ผู้หญิง | – พิจารณาการคัดกรองสตรีที่อยู่ในสถานที่ที่มีความชุกของโรคสูง (เช่น คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และทัณฑสถาน) และสตรีที่ไม่แสดงอาการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ (เช่น สตรีที่มีคู่นอนหลายคน การมีเพศสัมพันธ์ การใช้ยาในทางที่ผิด หรือประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ คุมขัง) 2 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – แนะนำให้ตรวจในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ เมื่อเข้ารับการดูแลเรื่อง HIV เป็นครั้งแรก และอย่างน้อยทุกปีหลังจากนั้น2,6 |
การตรวจคัดกรอง HIV
ในประเทศไทย คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ตรวจคัดกรอง HIV ได้ฟรีทุกสิทธิ์การรักษา (ประกันสังคม บัตรทอง ข้าราชการ) ปีละ 2 ครั้ง
ผู้หญิง | – ผู้หญิงทุกคนอายุ 13-64 ปี (opt-out)‡ 9,10 – ผู้หญิงทุกคนที่ขอรับการประเมินและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์2,10 |
สตรีมีครรภ์ | – หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรได้รับการตรวจคัดกรองในการฝากครรภ์ครั้งแรก (opt-out) 9, 10 – ตรวจซ้ำในไตรมาสที่ 3 หากมีความเสี่ยงสูง (ผู้ที่ใช้ยา, มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์, มีคู่นอนหลายคนระหว่างตั้งครรภ์, มีคู่นอนใหม่ระหว่างตั้งครรภ์, อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเอชไอวีสูง หรือมีคู่นอนที่ติดเชื้อเอชไอวี) 11 – ควรทำการตรวจอย่างรวดเร็วเสมอเมื่อมาคลอดบุตร หากไม่เคยตรวจคัดกรองมาก่อนในระหว่างตั้งครรภ์10 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – ผู้ชายทุกคนอายุ 13-64 ปี (opt-out)‡ 9 – ผู้ชายทุกคนที่ขอรับการประเมินและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์2 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – อย่างน้อยปีละครั้งสำหรับกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ ถ้าสถานะเอชไอวีไม่เป็นที่รู้จักหรือเป็นลบ และผู้ป่วยหรือคู่นอนของพวกเขามีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคนตั้งแต่การทดสอบเอชไอวีครั้งล่าสุด2,10,12 – พิจารณาประโยชน์ของการเสนอการตรวจเอชไอวีให้บ่อยขึ้น (เช่น ทุก 3-6 เดือน) ในกลุ่มชายรักชายที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการติดเชื้อเอชไอวี 2 |
คนข้ามเพศและบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ | – ควรมีการพูดคุยและเสนอการตรวจคัดกรองเอชไอวีให้กับบุคคลข้ามเพศทุกคน ความถี่ของการตรวจซ้ำควรขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยง2,12 |
เชื้อ HPV, มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งทวารหนัก (Human papilloma virus)
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ฉีดให้กับเด็กนักเรียนหญิงฟรี โดยจะมีโครงการเป็นระยะๆ แนะนำให้ลองติดต่อสอบถามและติดตามโปรแกรมฉีดได้ตามหน้าเว็บไซต์ขององค์กรสุขภาพต่างๆ เช่น สภากาชาดไทย (https://thestandard.co/thai-red-cross-free-800k-hpv/) เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจคัดกรองเชื้อ HPV ฟรี ตามโครงการเป็นครั้งๆไป ตามแต่ละสถานพยาบาลที่จะจัดโครงการ แนะนำให้ลองติดต่อสอบถามและติดตามโปรแกรมตรวจได้ตามหน้าเว็บไซต์ขององค์กรสุขภาพต่างๆ เช่น โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (https://www.chulabhornhospital.com/Detail/95/HPV_DNA_TEST-Say_kNow_HPV) เป็นต้น
สำหรับของต่างประเทศ จะแนะนำตรวจดังนี้
ผู้หญิง | – ผู้หญิงอายุ 21-29 ปี ทุก 3 ปี ด้วยเซลล์วิทยา (Pap smear)13,14,15 – ผู้หญิงอายุ 30-65 ปี ทุก 3 ปี ด้วยการตรวจเซลล์วิทยา หรือทุก 5 ปี ด้วยการตรวจเซลล์วิทยาร่วมกับการตรวจ HPV 13,14,15 |
สตรีมีครรภ์ | – สตรีมีครรภ์ควรได้รับการตรวจคัดกรองในช่วงเวลาเดียวกันกับสตรีที่ไม่ได้ตั้งครรภ์13,14,15 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – การตรวจทวารหนักด้วยนิ้วมือ2 – ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งทวารหนักเป็นประจำด้วยเซลล์วิทยา2 |
คนข้ามเพศและคนหลากหลายทางเพศ | – การตรวจคัดกรองผู้ที่มีปากมดลูกควรปฏิบัติตามแนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในปัจจุบัน2 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – ผู้ให้บริการควรปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสในผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่ติดเชื้อ HIV ที่มีอยู่ เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและการจัดการผลลัพธ์ในผู้ติดเชื้อHIV16 |
ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)
ผู้หญิง | – ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (มีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา การประเมินหรือการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ยาฉีดในอดีตหรือปัจจุบัน และคู่นอนที่มี HBsAg เป็นบวก) 17 |
สตรีมีครรภ์ | – ตรวจหา HBsAg ในการนัดตรวจครรภ์ครั้งแรกของการตั้งครรภ์แต่ละครั้งโดยไม่คำนึงถึงการทดสอบก่อนหน้า ทดสอบซ้ำเมื่อคลอดหากมีความเสี่ยงสูง18 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – ผู้ชายที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น (เช่น จากการสัมผัสทางเพศหรือการสัมผัสทางผิวหนัง) 17 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – ชายรักชายทุกคนควรได้รับการตรวจหา HBsAg, anti-HBc และ anti-HBs 17 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – ตรวจหา HBsAg, anti-HBc และ anti-HBs 17 |
ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C)
ผู้หญิง | – ผู้ใหญ่ทุกคนที่อายุเกิน 18 ปีควรได้รับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี ยกเว้นในสถานที่ที่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV) มีค่า < 0.1% 19 |
สตรีมีครรภ์ | – สตรีมีครรภ์ควรได้รับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี ยกเว้นในสถานที่ที่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV) มีค่า < 0.1% 19 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง | – ผู้ใหญ่ทุกคนที่อายุเกิน 18 ปีควรได้รับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี ยกเว้นในสถานที่ที่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV) มีค่า < 0.1% 19 |
ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย | – ผู้ใหญ่ทุกคนที่อายุเกิน 18 ปีควรได้รับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี ยกเว้นในสถานที่ที่การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (HCV) มีค่า < 0.1% 19 |
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี | – ควรตรวจ HCV ประจำปีในกลุ่มชายรักชายที่ติดเชื้อ HIV 2,19 |
สวัสดิการด้านสุขภาพทางเพศของคนไทย
Admin ได้เรียบเรียงสรุปไว้ด้านท้ายของบทความนี้ และจะมีรายละเอียดอยู่ในบทความอีกบทความหนึ่ง (อ่านต่อ : สวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศของคนไทย มีอะไรบ้าง ประกันสังคม บัตรทอง ข้าราชการ)
อ้างอิง
*ตาม USPSTF (United States Preventive Services Taskforce) ผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการติดเชื้อหนองในแท้และหนองในเทียม หากมีคู่นอนใหม่ มีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคน หรือมีคู่นอนที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ใช้ถุงยางอนามัยไม่สม่ำเสมอ มี โรคติดต่อก่อนหน้า หรือมีโรคติดต่อขณะมาอยู่ร่วมกัน มีประวัติการค้าบริการทางเพศกับเงินหรือยาเสพติด หรือมีประวัติต้องโทษจำคุก
† การตรวจทางซีโรโลยีของเชื้อ HSV-2 มีประโยชน์ในสถานการณ์ต่อไปนี้: อาการหรือรอยโรคที่อวัยวะเพศที่เกิดขึ้นซ้ำหรือผิดปรกติโดยมีผล HSV PCR หรือเพาะเชื้อเป็นลบ การวินิจฉัยทางคลินิกของโรคเริมที่อวัยวะเพศโดยไม่มีการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ และคู่นอนของผู้ป่วย มีเริมที่อวัยวะเพศ ไม่แนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองทางเซรุ่มวิทยา HSV-2 ในกลุ่มประชากรทั่วไป ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ (เช่น ผู้ที่เข้ารับการประเมิน STI โดยเฉพาะผู้ที่มีคู่นอนตลอดชีวิตมากกว่า 10 คน และผู้ที่ติดเชื้อ HIV) อาจจำเป็นต้องได้รับการประเมินประวัติอาการเริมที่อวัยวะเพศ ตามด้วยประเภท – การตรวจทางซีโรโลยี HSV เฉพาะเพื่อวินิจฉัยโรคเริมที่อวัยวะเพศสำหรับผู้ที่มีอาการที่อวัยวะเพศ
‡ USPSTF แนะนำให้ตรวจคัดกรองในผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุ 15-65 ปี
§ ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งทวารหนักเป็นประจำด้วยเซลล์วิทยาทวารหนักในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งทวารหนัก ศูนย์ทางคลินิกบางแห่งทำการตรวจทางเซลล์วิทยาทางทวารหนักเพื่อตรวจหามะเร็งทวารหนักในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มชายรักชาย และกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก) ตามด้วยการส่องกล้องความละเอียดสูง (HRA) สำหรับผู้ที่มีผลทางเซลล์วิทยาผิดปกติ ( เช่น ASC-US, LSIL หรือ HSIL)
แนวทางการตรวจคัดกรองในประเทศไทย
แม้ว่าในประเทศไทยจะมีสถิติที่น่ากังวลเกี่ยวกับการมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสูง เช่น มีการค้าประเวณีแทบทุกจังหวัดในประเทศไทย, มีอัตราการตั้งครรภ์วัยรุ่นสูง, มีอัตราของคู่สมรสชาวไทยที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ไม่ใช่คู่สมรสสูง แต่ก็ยังไม่ได้มีมาตรฐานใดๆที่แนะนำการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทย
โดยส่วนใหญ่ เรื่องเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ก็จะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ โดยการใช้สิทธิ์บัตรทอง ประกันสังคม หรือข้าราชการ เมื่อมีอาการแล้วเท่านั้น ไม่ได้มีนโยบายในการคัดกรองโรคอื่นๆที่มีความสำคัญ และติดต่อไปยังผู้อื่นได้
แต่ก็มีสิทธิการรักษาบางอย่าง ที่อนุญาติให้เข้ารับการตรวจคัดกรองได้ฟรีเฉพาะบางโรค และสิทธิ์บางอย่างเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้เขียนได้เรียบเรียงสรุปไว้ด้านท้ายของบทความนี้ และจะมีรายละเอียดอยู่ในบทความอีกบทความหนึ่ง (อ่านต่อ : สวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศของคนไทย มีอะไรบ้าง ประกันสังคม บัตรทอง ข้าราชการ) สามารถเข้าอ่านเพิ่มเติมได้
ที่มา : https://www.cdc.gov/std/treatment-guidelines/screening-recommendations.htm