Site icon HealthSmile.co.th ตรวจสุขภาพ

ภาวะแบคทีเรียในช่องคลอดที่เชื่อมโยงกับการติดเชื้อ HPV แบบถาวร และมะเร็งปากมดลูก

ภาวะแบคทีเรียในช่องคลอดที่เชื่อมโยงกับการติดเชื้อ HPV แบบถาวร และมะเร็งปากมดลูก

ภาวะแบคทีเรียในช่องคลอดที่เชื่อมโยงกับการติดเชื้อ HPV แบบถาวร และมะเร็งปากมดลูก

3 กุมภาพันธ์ 2566

MONTROUGE ประเทศฝรั่งเศส — ผู้หญิงประมาณ 80% จะเคยติดเชื้อ เอชพีวี (HPV) สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งในช่วงชีวิต ซึ่งโดยส่วนใหญ่เชื้อไวรัส HPV นี้ร่างกายจะรักษาตัวเอง และสามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้เอง แต่มีประมาณ 5% ของผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสนี้ที่จะไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสนี้ได้ และจะทำให้เซลล์ของปากมดลูกผิดปกติ เกิดเป็นรอยโรคซึ่งจะทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้ 

โดยเชื้อ HPV นั้น เป็นสาเหตุมากกว่า 90% ของมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ยังทำให้เกิดมะเร็งทวารหนักกว่า 90% และประมาณ 70% ของมะเร็งในช่องคลอดและปากช่องคลอด และมากกว่า 60% ของมะเร็งองคชาติ

ปัจจุบันจึงมีการศึกษาวิจัยบทบาทของเชื้อก่อโรคในช่องคลอดชนิดอื่นๆ ที่อาจทำให้เชื้อ HPV ติดในผู้หญิงอย่างถาวรไม่สามารถกำจัดได้ และอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งอื่นๆในอนาคต

ในการแถลงข่าวก่อนการประชุมครั้งที่ 46 ของ French Colposcopy and Cervical and Vaginal Diseases Society (SFCPCV) Julia Maruani, MD, สูตินรีแพทย์ในเมือง Marseille ใช้โอกาสนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับความสำคัญของเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด และความจำเป็นในการรักษากรณีของภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (bacterial vaginosis) .

สร้างความสมดุล

ในช่องคลอดของผู้หญิงปกติ จะมีจุลินทรีย์ชนิดดีอาศัยอยู่ภายในช่องคลอด ทำหน้าที่สำคัญคือช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ (STIs) โดยในช่องคลอดที่มีสุขภาพดีจะประกอบด้วยจุลินทรีย์หลายล้านตัว ส่วนใหญ่เป็นแลคโตบาซิลลัส

ส่วนเชื้ออื่นๆ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย (Gardnerella vaginalis, Atopobium vaginae, prevotella, streptococcus, gonococcus) หรือเชื้อไวรัส HPV หรือ เชื้อรา นั้นเป็นเชื้อก่อโรคในช่องคลอด ทำให้ผู้หญิงมีอาการตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดออกผิดปกติได้

แลคโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ดี จะผลิตกรดแลคติคซึ่งช่วยลดค่า pH ของช่องคลอด ซึ่งเป็นพิษต่อเชื้อก่อโรคอื่นๆ ทำให้ป้องกันการเติบโตของเชื้อก่อโรคอื่นๆได้

ปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนและน้ำตาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูบบุหรี่ สามารถนำไปสู่ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด ทำให้เชื้อที่ดีลดน้อยลง ส่งผลให้ค่า pH ในช่องคลอดเพิ่มขึ้นและส่งผลให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือการเพิ่มจำนวนอย่างผิดปกติของแบคทีเรียที่ไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากขึ้น และเพิ่มโอกาสของการติดเชื้อ HPV 

พญ.Maruani กล่าวว่า “ผู้หญิงที่สูบบุหรี่อาจติดเชื้อ HPV อย่างต่อเนื่องเนื่องจากความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด”

ภาวะช่องคลอดอักเสบและ HPV

เมื่อมีแลคโตบาซิลลัสน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แบคทีเรียเหล่านี้ไม่สามารถปกป้องเยื่อบุช่องคลอดซึ่งถูกรบกวนโดยแบคทีเรียอื่นได้อีกต่อไป “จากนั้น HPV จะเข้าถึงเซลล์พื้นฐานของปากมดลูกได้” พญ.Maruani กล่าว เป็นที่ยอมรับในงานวิจัยว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างภาวะแบคทีเรียในช่องคลอดและการติดเชื้อ HPV แบบถาวร โดยมีการศึกษาวิจัยจำนวนมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาช่วยยืนยัน “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ฉันเห็นความเชื่อมโยงเดียวกันนี้ในผู้ป่วยของฉัน ผู้ที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบเรื้อรังมักเป็นผู้ที่ติดเชื้อ HPV อย่างต่อเนื่อง และฉันไม่ใช่คนเดียวที่สังเกตเห็นสิ่งนี้” เธอกล่าวเสริม

การศึกษาเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อ HPV แบบถาวรจะเกิดขึ้นในกรณีของภาวะช่องคลอดอักเสบ ส่งผลให้เกิดรอยโรคที่เยื่อบุผิวปากมดลูก นอกจากนี้ รอยโรคจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อภาวะความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอดรุนแรงขึ้น

แล้วการใช้โปรไบโอติกล่ะ? พวกเขาสามารถรักษาภาวะไม่สมดุลของจุลินทรีย์ และการติดเชื้อ HPV ในเวลาเดียวกันได้หรือไม่? “โปรไบโอติกทำงานได้ดีมากสำหรับภาวะช่องคลอดอักเสบ มีการทดลองใช้โปรไบโอติกมาเป็นเวลานานแล้ว และเรารู้ว่าพวกมันช่วยลดการติดเชื้อ HPV และลดโอกาสเกิดรอยโรคที่ไม่รุนแรงได้” พญ.Maruani กล่าว แม้ว่าจะไม่มีการศึกษาแบบสุ่มสนับสนุนข้อสรุปนี้ 

“แต่ทว่า มันก็ไม่ใช่วิธีการรักษาที่เหมาะกับทุกคน เราจะไม่รักษาผู้ป่วยที่เซลล์มีความผิดปปกริ ก่อนจะกลายเป็นมะเร็งด้วยโปรไบโอติก” ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโปรไบโอติกต่อรอยโรคที่รุนแรง 

ณ ปัจจุบัน พญ. Maruani กำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับประเด็นใหม่ คือ ประโยชน์ของการวินิจฉัยกรณีของภาวะช่องคลอดอักเสบที่ไม่แสดงอาการ — เพราะการรักษาแต่เนิ่นๆก่อนมีอาการอาจจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV แบบถาวรได้

บทความด้านบนนี้แปลจาก ฉบับภาษาฝรั่งเศสของ Medscape

จะเห็นได้ว่าภาวะความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด นำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือที่เรียกว่า Bacterial vaginosis ได้ ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสติดเชื้อ HPV แบบถาวรได้มากขึ้น และเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ในอนาคต

ดังนั้น หากคุณผู้หญิงมีอาการของความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องคลอด หรืออาการของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ได้แก่ ตกขาวมาก สีผิดปกติ กลิ่นเหม็นผิดปกติ มีเลือดปน ปัสสาวะแสบขัด หรือมีอาการอื่นๆที่น่าสงสัย ก็ควรที่จะตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด และทำการรักษาตามสาเหตุที่พบอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อสุขภาวะที่ดีของน้องสาว และสุขภาพที่แข็งแรงของคุณผู้หญิงค่ะ


Exit mobile version