แนวทางปฏิบัติเมื่อผลตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: ดูแลตัวเอง เข้าใจโรค และชวนคู่ของคุณดูแลสุขภาพร่วมกัน
การได้รับผลตรวจว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections หรือ STIs) อาจเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกตกใจ สับสน หรือวิตกกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเผชิญกับความเป็นไปได้ที่อาจส่งต่อเชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณรู้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว — โรคทางเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ “พบได้บ่อยมาก” ทั่วโลก และสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพหากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
1. ตั้งสติ และเข้าใจว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs : Sexually transmitted Infection) คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
หลายคนติดโรคโดยไม่รู้ตัว เพราะ STIs บางชนิดไม่มีอาการในระยะแรก หรือมีอาการที่คล้ายกับโรคทั่วไป เช่น ตกขาว เป็นตุ่มหนอง หรือผื่นผิวหนัง การติดโรคไม่ได้สะท้อนถึงพฤติกรรมหรือคุณค่าของบุคคล และไม่ควรใช้เพื่อ “ตัดสิน” ใคร การเข้าใจว่าโรคเหล่านี้เป็นปัญหาทางสุขภาพทั่วไป ช่วยให้คุณดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และลดความรู้สึกผิดหรืออับอาย
2. เข้ารับการตรวจและรักษาโดยเร็วที่สุด
การเข้ารับการตรวจคือขั้นตอนสำคัญที่สุด ที่จะทำให้คุณทราบแน่ชัดว่าเป็นโรคอะไร และควรรับการดูแลรักษาอย่างไร โรคแต่ละชนิดมีแนวทางรักษาแตกต่างกัน เช่น
-
โรคที่รักษาให้หายได้ เช่น หนองในแท้ ซิฟิลิสระยะแรก แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ และคุณควรทานยาให้ครบตามกำหนด แม้อาการจะดีขึ้นก่อน
-
โรคที่ต้องได้รับการดูแลระยะยาว เช่น HIV หรือไวรัสตับอักเสบบี แพทย์จะช่วยวางแผนการรักษาอย่างครอบคลุม เพื่อให้ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว
3. หยุดกิจกรรมทางเพศชั่วคราว จนกว่าจะได้รับการรักษาจนครบถ้วน
ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม ผู้ติดเชื้อควร งดการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะได้รับคำยืนยันจากแพทย์ว่าปลอดภัย ไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีก หรือสามารถควบคุมการติดเชื้อได้อย่างเหมาะสม การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างรอผลหรืออยู่ระหว่างการรักษา แม้จะใส่ถุงยางอนามัย ก็ยังอาจเสี่ยงแพร่เชื้อได้
4. แจ้งคู่ของคุณด้วยความจริงใจ และชวนให้มาตรวจและรักษาด้วยกัน
นี่อาจเป็นส่วนที่ยากที่สุดสำหรับหลายคน แต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการปกป้องสุขภาพของผู้อื่นและลดการระบาดของโรค อย่าลืมว่า:
-
คนที่ติดเชื้ออาจ ไม่รู้ตัว ว่าตนเองมีเชื้อ
-
การติดโรคไม่จำเป็นต้องหมายถึงการ “นอกใจ” หรือ “โกหก” — หลายคนติดเชื้อมานานก่อนที่จะคบหากับคุณ
-
การแจ้งข่าวไม่ได้เป็นการกล่าวโทษ แต่คือการแสดงความรับผิดชอบ และเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลซึ่งกันและกัน
คุณสามารถพูดคุยกับแพทย์หรือผู้ให้บริการสุขภาพของ เฮลท์สไมล์ เพื่อขอคำแนะนำในการแจ้งคู่ของคุณอย่างเหมาะสม หรืออ่านบทความนี้ เพื่อช่วยในการแจ้งผลการตรวจให้กับคู่ของคุณ : จะคุยกับแฟนอย่างไร ถ้าผลตรวจเราเป็นโรคติดต่อทางเพศ
5. ร่วมกันวางแผนป้องกันโรคในอนาคต
เมื่อผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้ว คุณสามารถใช้โอกาสนี้วางแผนกับคู่ของคุณในการดูแลสุขภาพทางเพศร่วมกัน เช่น
-
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
-
ตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ
-
สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ
-
หาข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันบางโรค เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine) และไวรัสตับอักเสบบี
6. อย่าลืมดูแลสุขภาพใจของคุณเอง
หากคุณรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือรู้สึกโดดเดี่ยว การพูดคุยกับนักจิตวิทยา หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน อาจช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลานี้ได้อย่างราบรื่น อย่าลืมว่า “สุขภาพจิต” เป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพโดยรวม และคุณไม่จำเป็นต้องเผชิญสิ่งนี้เพียงลำพัง
สรุป
การตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ใช่จุดจบของความสัมพันธ์ หรือสุขภาพที่ดี แต่เป็น จุดเริ่มต้น ของการดูแลตัวเองอย่างจริงจัง และแสดงความรับผิดชอบต่อคนรอบข้าง หากคุณสามารถตั้งสติ ปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์ และสื่อสารกับคนรักด้วยความเคารพและเมตตา คุณจะไม่เพียงแค่รักษาตัวเองได้เท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างวัฒนธรรมของการดูแลสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัยและเข้าใจมากยิ่งขึ้นในสังคม
อย่าโทษตัวเอง หรือโทษคนอื่น จงให้โอกาสตัวเองและคู่ของคุณในการรักษา และเริ่มต้นใหม่ร่วมกัน
หากต้องการคำปรึกษาหรือการตรวจเพิ่มเติม สามารถติดต่อ HealthSmile ที่เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศ ได้ที่
LINE ID : @HealthSmile หรือคลิกที่ Link นี้ : https://lin.ee/4CIgU8r
เพื่อเข้ารับการตรวจ/รักษาเพิ่มเติมกับผู้ให้บริการสุขภาพที่คุณไว้วางใจได้
[Infographic] ข้อควรปฏิบัติ เมื่อผลตรวจพบโรคติดต่อทางเพศ
อ้างอิง
- What should I do if I get an STI? [Internet]. Plannedparenthood.org. [cited 2025 May 1]. Available from: https://www.plannedparenthood.org/blog/what-should-i-do-if-i-get-an-sti
- 2. Sexually transmitted infections [Internet]. Cleveland Clinic. 2023 [cited 2025 May 1]. Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/9138-sexually-transmitted-diseases–infections-stds–stis