กรุ๊ปเลือดลูกไม่ตรงกับพ่อแม่ เกิดจากอะไร ทำอย่างไรบ้าง
กรุ๊ปเลือดคืออะไร?
กรุ๊ปเลือดหมายถึงการจำแนกประเภทของเลือดในมนุษย์ตามลักษณะโปรตีน (antigens) ที่อยู่บนผิวของเซลล์เม็ดเลือดแดง กรุ๊ปเลือดหลักที่แบ่งในมนุษย์ตามระบบ ABO มีอยู่ 4 ประเภท ได้แก่
กรุ๊ป A
- มีแอนติเจน A บนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง จะเป็นอัลลีลแบบ A/A หรือ A/O ก็ได้
- ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A สามารถรับเลือดจากกรุ๊ป A และ O ได้
กรุ๊ป B
- มีแอนติเจน B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง จะเป็นอัลลีลแบบ B/B หรือ B/O ก็ได้
- ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด B สามารถรับเลือดจากกรุ๊ป B และ O ได้
กรุ๊ป AB
- มีทั้งแอนติเจน A และ B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง จะเป็นอัลลีลแบบ A/B เท่านั้น
- ถือเป็น “ผู้รับเลือดสากล” เพราะสามารถรับเลือดได้จากทุกกรุ๊ป (A, B, AB, O)
- แต่ในทางกลับกัน เมื่อให้เลือดจะมีข้อจำกัดเนื่องจากมีแอนติเจนทั้งสองชนิด ทำให้สามารถบริจาคให้ได้เฉพาะกรุ๊ป AB เท่านั้น
กรุ๊ป O
- ไม่มีแอนติเจน A หรือ B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง จะเป็นอัลลีลแบบ O/O ก็ได้
- ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O เป็น “ผู้ให้เลือดสากล” เนื่องจากเลือดของพวกเขาสามารถให้กับทุกกรุ๊ปได้
- อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O รับเลือดได้เฉพาะจากกรุ๊ป O เท่านั้น
รูปแสดงกรุ๊ปเลือด ABO ต่างๆ
ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Blood_type
การจำแนกกรุ๊ปเลือดเป็น A, B, AB, O มีความสำคัญ โดยเฉพาะในกระบวนการให้เลือดในภาวะฉุกเฉิน เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างเลือดของผู้รับและผู้บริจาค นอกจากนั้นยังมีการจำแนกเพิ่มเติมตามปัจจัย Rh ซึ่งจะแบ่งออกเป็น Rh บวก (+) และ Rh ลบ (–) ก็เป็นข้อมูลที่สำคัญในการถ่ายเลือด โดยเฉพาะในช่วงการตั้งครรภ์ เพราะหากแม่และทารกมี Rh ไม่ตรงกันอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
การทำนายกรุ๊ปเลือดลูก จากกรุ๊ปเลือดพ่อ-แม่
ลูกน้อยจะได้รับยีนที่ควบคุมหมู่เลือดมาจากคุณพ่อและคุณแม่ หากคุณพ่อคุณแม่ทราบกรุ๊ปเลือดตัวเอง ก็สามารถตรวจสอบกรุ๊ปเลือดที่เป็นไปได้ของลูกได้จากตารางกรุ๊ปเลือดพ่อแม่ลูก ตารางด้านล่างนี้คือตัวอย่างตารางสรุปกรุ๊ปเลือดของพ่อและแม่ พร้อมกับการทำนายกรุ๊ปเลือดที่เป็นไปได้ของลูก โดยตารางนี้ใช้หลักการสืบทอดของระบบ ABO ซึ่งเป็นพื้นฐานของการกำหนดกรุ๊ปเลือดในมนุษย์
กรอกข้อมูลกรุ๊ปเลือดของพ่อและแม่ เพื่อทำนายกรุ๊ปเลือดลูก
ผลลัพธ์:
จากข้อมูลด้านบน จะเห็นได้ว่า กรุ๊ปเลือดของพ่อ-แม่ อาจจะไม่ตรงกับของลูกได้ แต่หากผลกรุ๊ปเลือดของลูกไม่ตรงกับที่คาดไว้จากพ่อและแม่ตามทฤษฎีสืบทอดพื้นฐานตามตารางด้านบน อาจมีสาเหตุหรือปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
1. ความผิดพลาดในการตรวจเลือด (Laboratory Error)
การตรวจกรุ๊ปเลือดอาจเกิดข้อผิดพลาดในกระบวนการทดสอบ หรือการอ่านผลจากห้องปฏิบัติการ ทำให้ผลที่ได้ไม่ถูกต้อง วิธีแก้ไขอันดับแรก คือ ให้ตรวจกรุ๊ปเลือดซ้ำดูอีกครั้งว่ายังคงเป็นกรุ๊ปเลือดเดิมหรือไม่
2. อาจจะไม่ใช่พ่อ หรือ แม่ที่แท้จริงของเด็ก (Non-Paternity / Non-Maternity)
ในบางกรณีข้อมูลของพ่อหรือแม่ ที่ระบุไว้อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งจะตรวจวินิจฉัยความผิดพลาดนี้ได้โดยการตรวจ DNA เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่าง พ่อ แม่ ลูก โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
- กรณี บุตร มี DNA ตรงกับแม่ แต่ไม่ตรงกับพ่อ แสดงว่า คุณแม่อาจจะมีเพศสัมพันธุ์กับชายอื่นทำให้บุตรในครรภ์ไม่ใช่บุตรของคุณพ่อ
- กรณี บุตร มี DNA ไม่ตรงกับแม่ และไม่ตรงกับพ่อ เกิดการสลับตัวของทารกหลังคลอด ซึ่งจะเป็นจากความผิดพลาดของโรงพยาบาล หรือการโจรกรรมเด็ก ฯลฯ
- กรณี บุตร มี DNA ตรงกับแม่ และตรงกับพ่อ กรณีนี้ อาจจะเป็นจากสาเหตุที่หาได้ยากอื่นๆ ซึ่งจะกล่าวต่อไปในบทความนี้
ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็นบิดา และความสัมพันธ์ในครอบครัว ราคา 12,000 บาท บริการทั่วประเทศ
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
Add LINE ID : @HealthSmile
3. เป็นกรณีของกรุ๊ปเลือดที่หายาก (Rare Blood Phenotypes)
กรณีที่บุตรมี DNA ตรงกับแม่ และตรงกับพ่อ แสดงว่าทั้ง บิดา มารดา และบุตร มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดทั้งหมด (เป็น พ่อ แม่ ลูก กันจริงๆ) ก็อาจจะมีกรุ๊ปเลือดหายากบางชนิดที่ทำให้เกิดกรุ๊ปเลือดลูกไม่ตรงกับพ่อ-แม่ได้ ได้แก่
- Bombay Phenotype (hh): เป็นกรณีที่หายาก ซึ่งบุคคลที่มีลักษณะนี้จะไม่มีแอนติเจน A หรือ B บนเซลล์เม็ดเลือดแดง แม้ว่าจะมีอัลลีล A หรือ B อยู่ก็ตาม ทำให้ผลตรวจเลือดแสดงเป็น O ซึ่งอาจดูเหมือนว่าไม่ตรงกับการสืบทอดจากพ่อแม่
- กรณี cis-AB: กรณีที่มีการรวมอัลลีลที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดลักษณะของกรุ๊ปเลือดที่คาดไม่ถึง
4. ปรากฏการณ์ทางพันธุกรรมที่ซับซ้อน (Genetic Mutation or Mosaicism):
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมในช่วงการพัฒนาของตัวอ่อน หรือเกิดปรากฏการณ์ mosaicism (ที่มีเซลล์สองกลุ่มที่มีข้อมูลทางพันธุกรรมแตกต่างกัน) ซึ่งอาจทำให้ผลเลือดของลูกแสดงลักษณะที่ไม่ตรงกับการคาดเดาจากพ่อแม่ได้
5. ผลกระทบจากการถ่ายเลือดหรือการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ (Medical Interventions):
ในกรณีที่ลูกได้รับการถ่ายเลือดหรือได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างจากการรักษาทางการแพทย์ก่อนการตรวจกรุ๊ปเลือด อาจมีผลต่อผลตรวจในบางกรณี นอกจากนี้ยังมีกรณีของการบริจาคอวัยวะ (เช่น ในผู้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก bone marrow) ที่อาจมีผลต่อกรุ๊ปเลือดชั่วคราว ทำให้ผลตรวจกรุ๊ปเลือดไม่ตรงได้
คำแนะนำ กรณีที่ตรวจกรุ๊ปเลือดลูกแล้วไม่ตรงกับของพ่อ-แม่
หากตรวจกรุ๊ปเลือดของลูกแล้วไม่ตรงกับของพ่อ-แม่ ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
- เช็คตารางแสดงการทำนายกรุ๊ปเลือดลูก จากกรุ๊ปเลือดพ่อ-แม่ : ว่ากรุ๊ปเลือดของพ่อ-แม่ จะสามารถมีลูกกรุ๊ปเลือดอะไรได้บ้าง
- ถ้าตรงตามตาราง แสดงว่ากรุ๊ปเลือดของลูกปกติดี ไม่จำเป็นต้องตรวจใดๆเพิ่ม
- ตรวจกรุ๊ปเลือดซ้ำ : หากไม่ตรงตามตารางด้านบน ควรตรวจกรุ๊ปเลือดของทั้ง พ่อ-แม่-ลูก ซ้ำอีกครั้ง
- ถ้าตรวจกรุ๊ปเลือดซ้ำ แล้วผลเปลี่ยนแปลงจากเดิม ตรงตามตาราง แสดงว่ากรุ๊ปเลือดของลูกปกติดี ไม่จำเป็นต้องตรวจใดๆเพิ่ม
- ตรวจ DNA พิสูจน์ความเป็น พ่อ-แม่-ลูก : หากกรุ๊ปเลือดที่ตรวจซ้ำยืนยันว่ายังไม่ตรงกับของพ่อแม่ ให้ตรวจ DNA ยืนยันความเป็น พ่อ-แม่-ลูก
- กรณี DNA ของลูกไม่ตรงกับ พ่อและแม่ : ให้แจ้งกับทางโรงพยาบาลที่คุณแม่ไปคลอด เพื่อสอบถามกรณีของการสลับตัวทารก
- กรณี DNA ของลูกไม่ตรงกับ พ่อ : อาจเกิดจากคุณแม่ตั้งครรภ์กับชายอื่น
- กรณี DNA ของลูกไม่ตรงกับ แม่ : ให้แจ้งกับทางโรงพยาบาลที่คุณแม่ไปคลอด เพื่อสอบถามกรณีของการสลับตัวทารก
- พบแพทย์เฉพาะทาง : หากเป็นพ่อแม่ลูกกันจริง (DNA ของลูกตรงกับ พ่อและแม่) จะต้องตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม เพื่อหากรุ๊ปเลือดที่หายาก หรือการกลายพันธุ์บางอย่างที่เป็นสาเหตุให้
สรุป
กรุ๊ปเลือดคือการจำแนกประเภทของเลือดตามโปรตีนบนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดงในระบบ ABO (A, B, AB, O) พร้อมปัจจัย Rh โดยลูกจะได้รับยีนจากพ่อแม่ทำให้สามารถทำนายกรุ๊ปเลือดได้ แต่หากผลเลือดของลูกไม่ตรงกับที่คาดไว้ อาจเกิดจากความผิดพลาดในห้องปฏิบัติการ หรือไม่ได้เป็นพ่อ-แม่-ลูกกันจริงๆ (non-paternity/non-maternity) หรือเกิดจากกรณีกรุ๊ปเลือดหายาก (เช่น Bombay phenotype, cis-AB) การกลายพันธุ์หรือ mosaicism รวมถึงผลกระทบจากการถ่ายเลือดหรือการรักษาทางการแพทย์ ดังนั้นจึงควรตรวจเลือดซ้ำและตรวจ DNA พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขอย่างถูกต้องและปลอดภัย.